First Impression: Voltron: Legendary Defender - FORM VOLTRON!

- สร้างโดยทีมแอนิเมชั่น The Legend of Korra ซึ่งมีกลิ่นอายญี่ปุ่น
- การ์ตูนหุ่นยนต์ หนึ่งในแนวเรื่องที่หายไปจากสารระบบการ์ตูนฝรั่งหลายปี
- งานภาพสไตล์ญี่ปุ่นแต่ผสมผสานการเขียนบทแบบฝรั่ง

ผมว่าแค่นี้แรง Hype ก็มหาศาลแล้วมั้ง

Voltron หรือชื่อญี่ปุ่นคือ โกไลออน เป็นหนึ่งในอนิเมะญี่ปุ่นที่ดังระเบิดในอเมริกาหลังจากมีการนำไปฉายแบบเสียงพากย์อังกฤษ เช่นเดียวกับ Robotech (มาครอส) และ Speed Racer (มัค โกโกโก!) ดังนั้นแล้วสำหรับการกลับมาในครั้งนี้แรง Hype เต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ใต้ร่มเงาของ Dreamworks Animation (เลยนับเป็นการ์ตูนฝรั่ง เพราะคนสร้างมันฝรั่งหมด) และการที่เรื่องนี้เป็นหนึ่งในการ์ตูนบู๊ที่ผุดขึ้นมาท่ามกลางกระแสของการ์ตูนตลกมากมาย

เนื่องจาก Voltron ลงให้ช่อง Netflix (บ้านเราน่าจะเป็น Dreamworks Channel มั้ง ก็ติดตามต่อไป) ดังนั้นเนื้อเรื่องมันจะต่อกัน เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของกลุ่มเพื่อนสามคน Lance, Hunk, Pidge ที่อยู่ในสถาบันฝึกนักบินอวกาศ จนกระทั่งวันหนึ่ง Pidge ได้พบว่ามีสัญญาณจากต่างดาวพูดถึง Voltron และ Shiro นักบินที่หายตัวไปจู่ๆกลับมายังโลกพร้อมบอกเรื่องจะมีมนุษย์ต่างดาวบุกมายังโลกเพื่อค้นหาอาวุธที่ชื่อ Voltron ทันใดนั้น Keith หนึ่งในนักเรียนหัวกะทิที่โดนไล่ออก ได้มาช่วย Shiro ออกมาและพบว่าหลังจาก Keith โดนไล่ออก เขาก็ค้นคว้าข้อมูลเรื่องของสิงโตสีฟ้าที่อยู่บนโลก ทุกคนจึงออกเดินทางเพื่อค้นหาสิงโตสีฟ้านั้นและได้พบว่า Voltron คือหุ่นยนต์ยักษ์ และได้เดินทางมาพบเจ้าหญิง Allura และถูกเลือกให้ค้นหาสิงโตที่เหลือเพื่อรวมร่าง Voltron และต่อสู้กับเผ่า Galra เผ่ามนุษย์ต่างดาวที่หมายจะครองจักรวาล

ตอนแรกของ Voltron เป็นการเอาสามตอนมาต่อกันยาวถึงหนึ่งชั่วโมง แต่ปัญหาคือหนึ่งชั่วโมงนี้เป็นตอนแนะนำตัวละคร ดังนั้นเวลาส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการพูดคุยเป็นหลัก ทำให้ฉากบู๊น้อยลง (จริงๆก็มีบ้างแหละ แต่น้อย ถ้าเทียบกับตอนที่ยาวตั้งชั่วโมง) ตอนสองเป็นตอนเน้นบทตลกเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ทีม และตอนสามก็เป็นตอนบู๊จริงๆซะทีนึง และการ์ตูนก็เริ่มฉายแววสนุกขึ้นมาที่ตอนที่สามนี่แหละ

Voltron ใช้สไตล์การดำเนินเรื่องแบบญี่ปุ่น โดยใช้เนื่อเรื่องสไตล์ผู้ถูกเลือกที่ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่นัก ต้องมีเรื่อง "พลังใจ" และต้องแบบ "หาสิงโตให้ครบสี่ตัวก่อนอีกตัวถึงจะทำงานได้" อะไรพวกนี้ด้วย แต่ก็ผสมผสานกับการเขียนบทตลกบ๊องๆแบบฝรั่งที่เข้ากันได้อย่างลงตัวเหมือน The Legend of Korra ขณะเดียวกันการดำเนินเรื่องสนุก แต่ยืดเนื้อเรื่องช่วงแรกไปกับการคุยมากๆดังที่กล่าวไป แทนที่จะทุ่มเวลาให้กับการพัฒนาตัวละคร เพราะมีแต่ Shiro กับ Pidge ที่มีความแค้นกับ Galra เท่านั้น อีกสามตัวที่เหลือเบาโหยงหมด ไม่มีแบ็คกราวนด์อะไรเลย เข้าใจว่าคงจะมาตอนหลังๆ แต่กระนั้นตัวละครก็ออกแบบดี มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ที่น่าสนใจดี

ด้านแอนิเมชั่นดีทำออกมาดี ไม่มีเผา เพราะได้ทีมที่ทำ The Legend of Korra ใครชอบอนิเมะญี่ปุ่นก็คงชอบที่มีทำหน้าตลกๆอะไรพวกนี้อยู่ด้วย บทบู๊ตอนแรกจืดไปหน่อย แต่ตอนสามสนุกดี ส่วนตัวหุ่นยนต์ Voltron อันนี้ลางเนื้อชอบลางยากันไป บางคนไม่ชอบเพราะมันเพรียวไปหน่อย แต่ผมว่ามันก็สมจริงดีนะ ขณะที่ CGI พวกหุ่นหรือยานยังไม่เนียนเต็มร้อย แต่ถือว่าน่าประทับใจ

สามตอนแรกของ Voltron สนุกและน่าประทับใจครับ แต่ตอนหนึ่งน่าเบื่อหน่อยๆเพราะยืดมากๆ บทบู๊ก็น้อย ต้องตอนสามขึ้นไปถึงจะสนุก ซึ่ง 11 ตอนออกครบแล้ว (หรือ 13 เพราะตอน 1 มันคือ 3 ตอนติดกัน) แต่เห็นคนบอกว่ามันไม่จบ ดังนั้นก็แปลว่าคงมีต่อไปอีกแน่นอน แต่กระนั้นทุกคนต้องอย่าลืมเรื่อง Comcast เข้าซื้อ Dreamworks ด้วย ไม่รู้ว่าจะได้ฉายต่อมั้ย หรือย้ายไปอยู่กับ Comcast กันแน่ อันนั้นก็รอลุ้นกันอีกที