[Review] Coco - หนังดูธรรมดาที่ไม่ธรรมดา



ผมยอมรับว่าผมไม่ได้ยก Coco ให้สูงนักในบทความการ์ตูนซีรี่ส์และภาพยนตร์ที่น่าสนใจในปี 2017 เนื่องจากหลายๆปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่องวันแห่งความตายกับเรื่องทำตามฝันที่ถูกใช้จนเบื่อ และเนื้อหาจากครอบครัวที่ก็คงสนุกและซึ้งแต่อาจจะไม่น่าสนใจอะไรก็ได้

ผมพูดถูกมั้ย? ก็ระดับนึงนะ

ใช่ครับ Coco ไม่ใช่หนังที่มีพล็อตเรื่องน่าสนใจที่สุดในโลกอะไรขนาดนั้น พล็อตเรื่องมันธรรมดามากๆ คือ Miguel เด็กชายในตระกูลช่างทำรองเท้าที่เกลียดดนตรีเข้าไส้ เกิดรักในดนตรีเพราะนักดนตรีดังคนนึงที่ตายไปแล้ว Ernesto de la Cruz จนในวันแห่งความตาย มีการประกวดดนตรี เขาจึงอยากไปประกวด แต่พอครอบครัวจับได้ว่าเขาชอบดนตรี ก็ทำลายกีตาร์ของเขา เขาเลยไปขโมยกีตาร์ของ Ernesto และถูกพามายังโลกคนตาย ซึ่งเขาได้พบกับครอบครัวที่ตายไปแล้วของเขาที่นั่น ซึ่งสามารถส่งเขากลับไปได้ แต่ได้ตั้งเงื่อนไขว่าห้ามเล่นดนตรีอีกไม่งั้นจะถูกพากลับมาที่นี่อีก Miguel เลยคิดจะไปหา Ernesto แทนเพื่อจะได้ไม่ห้ามเขาเล่นดนตรี เขาเลยผจญภัยในโลกแห่งความตายไปกับ Hector คนที่ติดอยู่ในดินแดนนี้ กับ Dante สุนัขที่หลุดเข้ามาในโลกคนตายด้วย

จะเห็นได้ว่าพล็อตเรื่องไม่ได้แปลกใหม่อะไรกับการผจญภัยในดินแดนที่ไม่รู้จัก กับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอหน้า และสัตว์สุดฮา ในการทำตามความฝัน ที่ครอบครัวต่อต้าน บลา บลา บลา ผมเชื่อว่าหลายคนคงยกการ์ตูนได้หลายสิบเรื่องจากพล็อตแบบนี้ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Pixar สามารถยกระดับพล็อตแบบนี้ไปอีกขั้นได้


แก่นหลักของ Coco คือเรื่องราวของชีวิต ความตาย ความฝัน และครอบครัว (และมากกว่านั้นแต่มันจะสปอยล์อ่ะนะ) และที่น่าประทับใจคือมันผสมผสานทั้งหมดได้อย่างลงตัวผ่านเรื่องราวของโลกคนตายที่เอ่อ...จืดชืดไปหน่อย และนั่นแหละปัญหาหลักข้อเดียวของ Coco เลยคือโลกคนตายค่อนข้างจืดชืดมากๆ จริงอยู่ที่ว่าฉากสะพานจะดอกไม้สวยมาก และไอเดียการให้ทางเข้าออกโลกคนตายเหมือนด่านตรวจคนเข้าเมืองของสนามบิน แต่ทว่านอกเหนือจากนั้นมันดูธรรมดาและไม่น่าสนใจเท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับอย่าง The Book of Life ได้สร้างโลกคนตายผสมผสานวัฒนธรรมแอซเทคเข้าไปด้วยมันเลยดูแปลกใหม่และหวือหวาน่าสนใจกว่า จริงอยู่ที่อาจจะสื่อว่านี่โลกคนตายนะ แต่มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้หน่อย

แต่กระนั้นการเลือกใช้วันของคนตายที่ผมเคยบ่นไปนั้น กลับผมว่าเหตุผลที่เหลือนั้นเพราะมันใส่วัฒนธรรมลงไปด้วย ที่ผมชอบที่สุดคือมันได้สร้างเหตุผลของธรรมเนียมลงไป (ปรุงแต่งให้ดูตลกขึ้น) แต่ผมว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นแบบ ต้องทำตามธรรมเนียมนะอะไรแบบนี้ แต่ Coco ได้ชี้ชัดให้เราเห็นเลยว่าเราทำไปเพื่ออะไรและมันสัมพันธ์กับเนื้อหาของเรื่องที่ไม่ใช่แค่การข้ามไปโลกคนตายเท่านั้นด้วย


พล็อตครอบครัวนั้นแน่นอนว่าไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ Pixar พัฒนาไปอีกขั้นด้วยการใส่รายละเอียดที่ทำให้เราเห็นชัดว่าทำไมตระกูล Miguel ถึงได้เกลียดดนตรีเข้าไส้ ปกติเรื่องอื่นๆ (เช่น Book of Life) พล็อตแบบนี้มันมักจะเป็นแค่ "นี่เป็นอาชีพของตระกูล" อะไรพวกนี้ แต่เรื่องนี้ใส่รายละเอียดที่ชัดเจน ฟังขึ้น และทำให้เราได้รู้สึกว่ามันมีเหตุผล และมันช่วยส่งเสริมคาแร็คเตอร์ของ Miguel ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งๆที่ Miguel เป็นแค่เด็กรักในดนตรี ไม่ได้มีปูมหลังที่ซับซ้อนอะไร แต่การผูกเรื่องธรรมดาอย่างการทำตามความฝัน เข้ากับพล็อตเรื่องการกีดกันของครอบครัวที่เหตุผลถูกเขียนขึ้นมาอย่างชัดเจน มันทำให้คาแร็คเตอร์ของเขาดูยิ่งใหญ่ขึ้นมา การตัดสินใจเล็กๆอย่างการเลือกที่จะไปประกวดดนตรี มันสร้าง Impact ต่อความรู้สึกมากกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะเรื่องอื่นเราไม่ได้รู้สึกว่าปัญหามันจะใหญ่ขนาดนั้น แต่ใน Coco ได้แสดงให้เห็นว่ามันใหญ่มาก และช่วยเสริมสร้างคาแร็คเตอร์ได้อย่างดี

พูดถึงเรื่องคาแรคเตอร์อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องชมคือตัวละครออกแบบดีมากๆ และที่สำคัญคืองานภาพช่วยยกระดับตัวละครได้ดี อย่างเช่นตัวละครที่เป็นคน จะออกแบบหน้าตัวละครให้ดูกึ่งสมจริง และทำให้เวลาตัวละครแสดท่าทางออกมาแล้วดูดีมากๆ แต่พอเป็นคนตายแล้วจะมีกระดูกแบบการ์ตูน (มีลูกกะตา) ซึ่งทำให้สร้างอารมณ์ขันได้ง่าย แต่มุขตลกในเรื่องก็ไม่ได้บ๊องๆแบบเรื่องอื่นๆ อย่างหมา Dante ที่ผมนึกว่าจะเป็นตัว "แย่งซีน" แบบที่หลายๆเรื่องชอบทำกัน แต่เปล่าเลย ตัว Dante มีฉากตลกนิดๆเท่านั้น แต่กลับมีบทสำคัญต่อเรื่องเลยทำให้เป็นตัวละครที่น่ารักมากกว่าน่ารำคาญ


บทในเรื่องเขียนดีมากผนวกกับจังหวะจะโคนในการเล่าเรื่อง เพลงที่ถูกหยิบมาใช้อย่างพอดี ช่วยทำให้ประสบการณ์ในการดู Coco สนุกและมีอารมณ์ร่วมเป็นอย่างมาก ยิ่งถึงฉากที่ร้องเพลงแล้วสื่อความหมายได้อย่างดีผสมกับภาพ และวัฒนธรรมและอะไรหลายๆอย่างเข้าด้วยกันอย่างลงตัวด้วยแล้ว Coco เป็นหนังที่ดีที่สุดของ Pixar และถ้าจะบอกว่าดีที่สุดในหมู่ 3D มั้ย? ผมว่าจะว่างั้นก็ได้นะ



สรุป

+ คาแร็คเตอร์ดี
+ เพลงดี
+ แก่นหลักของเรื่องที่ผสมกันอย่างลงตัวได้ดีมากๆ
+ การลงรายละเอียดของเนื้อหาให้ดูมีเหตุผลส่งเสริมให้พล็อตเรื่องสนุกยิ่งขึ้น

- โลกคนตายจืดชืดไปหน่อย

คะแนน: 10/10

No comments:

Post a Comment