First Impression: Big Hero 6: The Series - บ๊ะแหล่วแหล่วแล้ว



พูดตรงๆนะ ผมว่า Big Hero 6 ไม่ใช่หนังที่ดีเท่าไหร่ เรียกได้ว่าออกจะธรรมดาด้วยซ้ำ เพราะหนังไม่ได้นำเสนออะไรใหม่ๆให้ (ถ้าเทียบกับ Incredibles นั่นคือมันยังมีเรื่องของฮีโร่กับคนธรรมดาอะไรพวกนี้ด้วย) พล็อตเรื่องก็งั้นๆ Plot Twist ก็งั้นๆ แต่มันดันชนะออสการ์ คนเลยกังขากันพอสมควร

แต่ในเมื่อมันมีฉบับซีรี่ส์ออกมาก็มาดูกันว่าจะสนุกแค่ไหน

สำหรับตอนแรกของ BH6: The Series นั้นเปิดตอนด้วย Baymax Return ซึ่งเอา 5 นาทีสุดท้ายของหนังมาขยายให้เป็นเรื่องเป็นราวสำหรับตอนนี้

สำหรับคนที่ไม่เคยดูหนังผมเล่าคร่าวๆให้ละกัน ตัวเอก Hiro เป็นเด็กอัจฉริยะ มีพี่ชายชื่อ Tadashi ที่เรียนสถาบันเทคโนโลยีและเก่งสร้างหุ่นยนต์และสร้าง Baymax ซึ่งเป็นหุ่นช่วยเหลือทางการแพทย์ขึ้นมา และมีเพื่อนๆอีก 4 คน Wasabi, Honey Lemon, Gogo และ Fred ซึ่ง Hiro ไปเห็นสถาบันที่ Tadashi เรียนอยู่เลยอยากเข้าเรียนบ้าง เลยสร้างหุ่นยนต์ Nanobot ไปโชว์ แต่ผู้ร้ายของเรื่องเห็นเข้าเลยอยากใช้มันเพื่อจุดประสงค์ของตัวเอง เลยจัดฉากระเบิดงานโชว์เพื่อทำเหมือนกับว่าหุ่นยนต์ของ Hiro ถูกทำลายหมดแล้วและทำให้ Tadashi ตายไปด้วย พอ Hiro รู้ความจริงว่ามีคนขโมยหุ่นยนต์ของตัวเองไป เลยร่วมมือกับเพื่อนๆของ Tadashi และ Baymax สร้างทีมซูเปอร์ฮีโร่ขึ้นมาเพื่อหยุดยั้งวายร้ายที่ขโมยหุ่นของตัวเองไป


สำหรับฉบับซีรี่ส์นั้นอย่างที่บอก เปิดเนื้อเรื่องมาด้วยฉากก่อนสุดท้ายในหนังที่เป็นฉาก Hiro เดินทางไปเรียนเป็นวันแรก และต้องไปพัวพันกับแผนของผู้ร้ายคนใหม่ในซีรี่ส์ Obake (แปลว่าผี) รวมถึงมีเรื่องการใช้ชีวิตในสถาบันของ Hiro เพื่อสร้าง Baymax ขึ้นมาใหม่ กับตัวละครใหม่อีกคนคือ Granville ซึ่งเป็นคณบดีของสถาบันซึ่งดูก็รู้คือจะเป็นตัวละครสไตล์ "อาจารย์ที่ไม่รู้เรื่อง" ที่คอยขัดขวางพวกตัวเอกและทำให้ต้องหาทางหนีอยู่เรื่อยๆแต่ในขณะเดียวก็ให้คำแนะนำ

เนื้อหาโดยรวมของตอนแรกนั้นจัดว่าสนุกดี มุขตลกโอเคโดยเฉพาะจาก Baymax ที่ยังเป็นตัวเด่นของเรื่องอยู่ ถึงแม้ตัวละครส่วนใหญ่จะยังขาดบทบาทไปบ้างเพราะนี่คือตอนของ Hiro กับ Baymax เป็นหลัก แต่ต้องยอมรับว่าตัวละครถ่ายทอดจากหนังได้ดี แต่ทว่าการถ่ายทอดจากหนังดีมันก็เกิดข้อเสียอยู่เหมือนกัน เนื่องจากว่าตัวละครในเป็นกลุ่มเด็กนักเรียนอัจฉริยะที่เก่งกันมากๆ ทำให้ไม่รู้สึกว่าตัวละครมีการพัฒนาอะไรเลย ซึ่งซีรี่ส์นี้ก็เช่นกัน เราจะไม่รู้สึกเลยว่าตัวละครจะพัฒนาไปมากกว่านี้ได้ เพราะตัวละครดูเก่งกันไปหมด บู๊เก่ง ไม่มีพลาด ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งอันนี้ก็หวังว่าตอนหลังๆจากนี้จะทำให้ตัวละครดูน่าสนใจขึ้นมาได้นะ

การดำเนินเรื่องโดยรวมถือว่าครบรสดี ฉากบู๊มีบ่อย (สำหรับสองตอน บู๊ 4 ครั้ง ก็โอเคนะ) ภาพรวมเวลาบู๊กันก็สนุกดี แต่ยังออกง่อยๆและหน่อมแน้มไปนิดนึง อย่าง Gogo โยนจานเนี่ย เด้งใส่หุ่นแล้วพัง ทั้งๆที่มันควรจะตัดคอหุ่นได้เลย แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะหนังเองมันก็ไม่ได้เน้นแอ็คชั่นเหมือนกัน แต่ไอ้ที่ว่าง่อยเนี่ย คือเวลาสู้กันมันเหมือนผลัดกันสู้ไปหน่อย ไม่ได้รู้สึกถึง synergy หรือการรวมพลังกันเลย ซึ่งไม่แน่ว่าตอนหลังๆอาจจะดีกว่านี้


ขณะที่งานภาพถือว่าดูดี แต่ผมว่ามัน...แปลกๆ ส่วนนึงคือผมว่ามันเหลี่ยมเยอะไปหน่อย และผมว่าด้านแอนิเมชั่นยังแข็งไปนิดนึง เทียบกับ Tangled แล้ว เรื่องนั้นงานภาพเนียนกว่าเลยดูรู้สึกโอเคไปกับอารมณ์ของภาพยนตร์ด้วย แต่เรื่องนี้มันแข็งกันไปหน่อยน่ะ

แต่ทว่ามีจุดหนึ่งที่ผมตะหงิดๆในตอนนี้คือพล็อตรองของตอนนี้คือเรื่อง "เส้นทางที่ถูกต้อง" กล่าวคือ Hiro ต้องการใช้แล็ปของ Tadashi เพื่อสร้าง Baymax แต่ Granville ไม่ให้ เพราะแล็ปนั้นนักเรียนต้องพยายามเรียนตามแบบแผนและฝึกฝนถึงจะได้มาดังที่ Tadashi เคยทำไว้ แต่ว่าสุดท้าย Granville ก็ยกแล็ปให้ Hiro อยู่ดี โดย Hiro อ้างว่าเขามีวิธีของเขาซึ่งอาจจะผิด Granville เลยบอก อ๊ะ เอาไป จะได้ลดความผิดพลาดลง ซึ่งผมก็แบบ...อะไรเนี่ย? โอเค มันอาจจะมีเหตุผลด้าน plot twist ไว้ทีหลัง แต่จริงๆผมว่ามันจะสนุกขึ้นถ้า Hiro ไม่ได้แล็ปแล้วแต่ละตอนพยายามหาทางใช้แล็ปเพื่อปรับปรุงพัฒนา Baymax แล้วให้ช่วงสำคัญ (Mid season หรือ Season finale) ค่อยให้ Hiro ได้แล็ปอย่างถาวรตอนหลัง จะได้เป็นการสร้างพล็อตและคาแร็คเตอร์ให้อีก พอมันรีบทำในตอนเดียวมันเลยรู้สึกขาดเหตุผลไปหน่อย

โดยรวมแล้ว Big Hero 6: The Series ทำออกมาโอเคนะ คือผมพูดตรงๆคือตัวหนังมันไม่ได้สนุกอะไรขนาดนั้น ซีรี่ส์เองถึงจะสนุกก็ออกธรรมดาไปหน่อย คือทั้งๆที่ซีรี่ส์ใช้เซ็ตติ้งจากหนัง มันน่าจะผลักดันเนื้อหาได้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีจุดน่าสนใจพอที่จะดึงออกมาได้ว่า เออ สนุก น่าติดตาม มันให้ความรู้สึกว่าจะเป็น Monster of the Week มีผู้ร้ายคนนึงค่อยส่งสัตว์ประหลาดมารังควาญตัวเอก แต่ก็ไม่แน่ตอนหลังๆอาจจะสนุก อันนี้มันก็ต้องติดตามดู เหมือน Tangled ที่มันก็สนุกขำๆ พอตอนหลังๆเน้นแอ็คชั่นกับเนื้อหามากขึ้น ขณะที่ DuckTales สนุกมาก พอตอนหลังๆดันดร็อปลงอย่างเห็นได้ชัด เรื่องนี้เองก็ต้องติดตามกันต่อไป

No comments:

Post a Comment