[จัดอันดับ] 5 อันดับบทเรียนยอดเยี่ยมจากเรื่อง Friendship is Magic



ไหนๆวันครูแล้วนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า Friendship is Magic เป็นการ์ตูนที่มีบทเรียนสอนเด็กๆนี่นา แน่นอนว่าบทเรียนก็มีทั้งที่ดี ที่ไม่ดี ที่ใช้ซ้ำๆซากๆ และที่...ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ที่ต้องยอมรับคือ FiM มีบทเรียนที่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำได้หลายอันมาก ดังนั้นแล้วผมเลยจะจัดอันดับบทเรียนประจำตอน 5 อันดับที่ผมคิดว่ายอดเยี่ยมที่สุดซีซันละ 1 เรื่อง รวมกับภาคคอมมิคด้วย

ในการจัดอันดับนี้ผมจะนับจากทั้งบทเรียนและเนื้อหา ผสมกัน แต่นี่ไม่ใช่การจัดอันดับตอน ดังนั้นไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นตอนที่ดีที่สุด ผมตัดสินตอนเหล่านี้จากบทเรียนก่อนแล้วตามด้วยเนื้อหา การจัดอันดับนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ดังนั้นหากคุณไม่เห็นด้วย คอมเมนท์มาพูดคุยกันได้

อันดับ 5 ความรักจะหาหนทางได้เสมอ
จากคอมมิคภาคหลัก My Little Pirates: Friendship Ahoy! (#13-#14)


จากผลของตอนหนอนหนังสือทำให้ผมค่อนข้างเกลียดผลงานของ Heather Nuhfer แต่ต้องยอมรับว่าภาคโจรสลัดนั้นกลับเป็นภาคที่สนุกและบทเรียนสอนใจก็ดีเช่นกัน

เนื้อเรื่องนั้นจะมีสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นสมบัติปริศนาของกัปตัน Hoofbeard กับอีกส่วนจะเป็นเรื่องของ Fluttershy ที่ไม่กล้าปล่อย Gil ปลาที่รับมารักษาจนหายดีให้ลงทะเลไป ในตอนท้ายเรื่องนั้นก็เฉลยว่าสิ่งที่กัปตันตามหาเป็นม้าเงือกนั่นเอง เพราะทั้งสองรักกันและอยากอยู่ด้วยกัน และทำให้ Fluttershy เข้าใจในที่สุดว่า แม้จะห่างกันเท่าใด แต่ถ้ารักกันจริงแล้ว ยังไงเสียก็ต้องได้เจอกันอยู่ดี เฉกเช่นที่กัปตันพยายามอย่างหนักที่จะได้เจอคนที่ตนรัก และสุดท้าย Fluttershy ก็ปล่อย Gil ลงทะเลไป

ถึงแม้ว่า Fluttershy จะงี่เง่าไปหน่อย และบทเรียนค่อนข้างโลกสวยไปนิด แต่ผมว่ามันใช้ได้เลยล่ะ

อันดับ 4 จงทำดีไม่ใช่เพื่อชื่อเสียง
จากซีซัน 2 The Mysterious Mare Do Well


เมื่อ Rainbow Dash ช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งและทำให้เขากลายเป็นคนดังขึ้น เธอก็หลงใหลในความโด่งดังนั้น เมื่อม้าฮีโร่ปรากฏตัวออกมา ความโด่งดังของเธอก็หายไป จนในที่สุดเธอก็ได้รู้ว่าม้าฮีโร่นั้นคือเพื่อนๆของเธอ ที่รวมหัวกันเพื่อให้เธอสำนึกว่าการทำความดี ควรทำด้วยใจ ไม่ใช่เพราะความโด่งดัง

ทุกวันนี้โลกโซเชียลเน็ตเวิร์คทำให้คนอยากจะ “โชว์” ทุกอย่างที่ตนมี จากเดิมแค่ของสะสม หน้าตา จนมาถึงล่าสุดคือโชว์ความดี ผมเห็นดราม่าหลายๆเรื่องที่คนอยาก "ทำดี" ในโลกโซเชียลเพื่อจะได้ฟังเสียงชื่นชม ยิ่งพวก 1 ไลค์=1 บาทเงี้ย มันคือการได้โชว์ว่าฉันทำความดีแล้วนะอะไรแบบนี้ (อยากบริจาคเงินจริงๆไปหยอดเอาตู้หยอดก็ได้ครับ ดีที่สุเแล้ว) แล้วยังมีเรื่องของมนุษย์กล้องที่กระสันอยากเป็นคนดีเลยถ่ายรูปอีกฝ่ายทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ แต่ถ่ายไว้ก่อนเอามาแชร์เพื่อคนจะได้ชื่นชมที่ตัวเองเป็น "คนดี" แล้วพอเกิดเรื่องก็ดริฟท์ตกเหวว่า "เค้าหวังดี"

อยากให้ทุกคนได้จดจำบทเรียนในตอนนี้ไว้ว่า หากอยากทำความดีควรทำด้วยใจ ไม่ใช่เพื่อจะได้โด่งดังหรืออะไรทั้งนั้น

อันดับ 3 อย่าบังคับคนอื่นให้เหมือนกับตนเอง
จากซีซัน 4 Maud Pie


Maud Pie พี่สาวของ Pinkie Pie เดินทางมายัง Ponyville เพื่อเลี้ยงส่งก่อนไปเรียนต่อ ด้วยความเป็นมิตรของทุกคน ทำให้ทุกคนพยายามให้ Maud Pie สนุกตามแบบฉบับของพวกเธอเอง แต่ Maud กลับไม่สนุกด้วย จนทุกคนเริ่มรู้สึกไม่ดี ทว่าในตอนท้ายทุกคนก็เข้าใจว่า การที่ Maud ไม่ได้สนุกเหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้หมายความว่า Maud จะไม่รัก Pinkie เธอแค่แตกต่างจากทุกคนและไม่จำเป็นที่เธอจะต้องไปเหมือนกับคนอื่นๆ

สังคมโลกเราเป็นสังคมหมู่มาก นั่นหมายถึงหลายครั้งมันจะมีสถานการณ์ที่บังคับให้คนทำแบบเดียวกัน เพื่ออะไร? เอาง่ายๆอย่างเรื่องรับน้องมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นดราม่ามาตลอด ผมเป็นคนหนึ่งที่ต้านการรับน้อง (สมัยผมเรียนผมโดดอีกต่างหาก) ที่ผมตลกที่สุดคือพวกสนับสนุน มักจะอ้างด้วยเหตุผลโคตรง่าวๆว่าจะไม่มีใครคบ คำถามคือทำไมต้องหาเพื่อนด้วยการให้มาทำกิจกรรมงี่เง่าเหมือนๆกัน ทุกคนไม่เหมือนกัน เราร้อยพ่อพันแม่ ทุกคนมีเหตุผลและมีชีวิตที่ต่างกันออกไป ทำไมไม่ยอมรับตรงนี้ แล้วให้เราดำเนินตามวิถีของตัวเอง หาเพื่อนในแบบของเรา ไม่ใช่ให้มานั่งทำอะไรบ้าๆบอๆอยู่นั่นแหละแล้วมาอ้างว่าได้เพื่อน

ผมเกลียดสังคมอย่างหนึ่งตรงที่สังคมไม่ชอบคนที่แตกต่าง เวลาเขาทำอะไรกันแล้วไม่ทำด้วยชอบมาบอกว่าไม่คบเพื่อนบ้างล่ะ หยิ่งบ้างล่ะ เอ้า ก็ตรูไม่ชอบนี่ ตรูจะต้องฝืนทำเหมือนกับเอ็งเหรอ? สรุปคือตรูผิดที่คิดต่าง สรุปคือตรูผิดที่ชอบไม่เหมือนพวกเอ็งงั้นเหรอ?

Bullsh*t

อันดับ 2 อย่าฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ จงทำในสิ่งที่เป็นตัวเรา
จากซีซัน 1 Winter Wrap Up


Winter Wrap Up คือช่วงเวลาที่ทุกคนออกมาเก็บกวาดหน้าหนาวให้หมดไปเพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ ธรรมเนียมดีๆแบบนี้ Twilight อยากมีส่วนร่วมด้วย แต่ทว่าทุกคนกลับมีหน้าที่ของตนเองอยู่แล้ว ด้วยความรู้สึกแตกแยกเธอพยายามที่จะเข้ากับคนอื่นๆด้วยการไปร่วมทำงานกับคนอื่นๆ เธอบินไปกับ Rainbow Dash ไม่ได้, เธอถักรังนกกับ Rarity ไม่ได้, เธอดูแลสัตว์เหมือน Fluttershy ไม่ได้, เธอเล่นสเกตน้ำแข็งกับ Pinkie Pie ไม่ได้, เธอลากรถไถกับ Applejack ไม่ได้ เธอทำอะไรไม่ได้เลย แต่เมื่อเธอพบว่างานครั้งนี้ไร้ระเบียบจนงานไม่เสร็จ ความสามารถในการจัดระเบียบของเธอจึงสามารถทำให้งานครั้งนี้จบลงด้วยดี

ตอน Winter Wrap Up เป็นตอนที่สนุกมากสำหรับบทเรียนนี้ การที่ได้เห็น Twilight พยายามเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้จนฝืนทำทุกอย่างที่ไม่ใช่ตัวเอง แสดงให้เราเห็นถึงความต้องการของ Twilight ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ ในชีวิตเรามีหลายครั้งที่เราพยายามเข้ากับคนอื่นๆด้วยการกลายเป็นคนอื่นเสียเองจนทำให้เสียตัวตนของตัวเองไปหมด และผมเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่พยายามหาว่าตนเองชอบอะไรและอยากจะทำอะไร

Twilight สอนให้เห็นว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา แต่จงมุ่งหน้าทำในสิ่งที่เป็นตัวเองทำได้ดี ผมเคยอ่านการ์ตูนสร้างแรงบันดาลใจนะ หลายๆคนจะพูดเรื่องนึงเหมือนกันหมดคือ จงทำงานที่ใช่ แล้วเราจะรู้สึกเหมือนไม่ใช่การทำงานอีกต่อไป (หมายถึงมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราจนเราไม่รู้สึกว่าเป็นการทำงาน) เนื้อหาสนุกและบทเรียนที่ผมว่าดีมากๆ สมควรกับอันดับสองนี้ไป

อันดับ 1 จงผลักดันตัวเองในทางที่ถูกต้อง
จากซีซัน 3 Wonderbolts Academy


เมื่อ Rainbow Dash พบ Lightning Dust ม้าที่กล้าบ้าบิ่นๆเท่ากับตนเมื่อเข้าไปในสถานบัน Wonderbolts แต่ Rainbow พบว่าตนกลับไม่ได้รับเลือกหน้าที่สำคัญๆอย่างการเป็นจ่าฝูง ทำไม? Spitfire บอกว่า เพราะ Lightning ชอบผลักดันตัวเองซึ่ง Rainbow ทำไม่ได้ แต่เมื่อการผลักดันของ Lightning ทำให้เพื่อนๆของ Rainbow ตกอยู่ในอันตราย Rainbow จึงได้สำนึกว่าหาก Wonderbolts ยอมรับว่าการผลักดันตนเองโดยไม่นึกถึงผู้อื่นคือทางที่ถูกต้อง เธอก็ไม่ขอร่วมทีมด้วยก็ได้

เรามักจะมีคำพูดประมาณว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น เข็นครกขึ้นภูเขา ฯลฯ แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เราจะได้รับการสั่งสอนว่าเราต้องพยายามในทางที่ถูกต้อง ผมเห็นหลายคนพยายามทำในสิ่งต่างๆ ทั้งวาดรูป ทำซับไทย อยากจะบอกให้ทุกคนว่าถ้าคุณคิดจะทำสิ่งเหล่านี้ อยากให้พวกคุณทำให้ถูกต้อง ทำให้ถูกหลักการ ทำให้ถูกวิธี เพราะถ้าอ้างแค่ว่าพยายามแล้วแค่นั้น มันก็ผิดไปตลอด คุณต้องพยายามในทางที่ถูกต้องต่างหากถึงจะดี

จริงๆคือผมไม่เคยนึกสนใจบทเรียนนี้เท่าไหร่ จนผมมาเจอนักวิจารณ์คนหนึ่งแกยกตอนนี้มาพูดและบอกว่า การพยายามทำอะไรสักอย่างน่ะมันก็ดี แต่มันต้องทำให้ถูกต้องและทำให้ดีด้วย ทำให้ผมเห็นว่านี่เป็นบทเรียนที่ดีที่สุดในทุกซีซันของ FiM เลยทีเดียว

=====================

เป็นอันจบอันดับบทเรียนในครั้งนี้ครับ ไม่ชอบตรงไหน มีข้อเสนอแนะตรงไหน คอมเมนท์ได้ครับ

แล้วเจอกัน

Credit
ไอค่อนตัวเลข http://www.iconarchive.com

No comments:

Post a Comment