Review: รีวิว Littlest Pet Shop, Yay or Nay?



Littlest Pet Shop เป็นการ์ตูนที่ผมให้ความสนใจในช่วงแรกๆ ด้วยเหตุผลว่ามันถูกโปรโมตพร้อมๆกับ Friendship is Magic มีนักพากย์บางส่วนไปร่วมพากย์ด้วย และที่สำคัญคือเพลงแต่งโดย Daniel Ingram คนเดียวกับที่แต่งให้ FiM แล้ว....มันดีแค่ไหนล่ะ?

สารภาพเลยว่าในตอนแรกผมมองว่าเรื่องนี้พยายามดำเนินตามรอยเท้าของ FiM แต่หลังจากดูไปครบ 3 ซีซัน (ซึ่งซี

ซัน 3 ยังฉายไม่จบ) ผมก็พบว่า LPS ถูกสร้างให้ต่างจาก FiM อย่างสิ้นเชิง


เนื้อเรื่องของ LPS คือ Blythe Baxter ต้องย้ายบ้านมาอยู่ Downtown City ห้องที่เธออยู่เชื่อมต่อกับห้องที่ชั้นล่างสุดของอาคารซึ่งเป็นร้านรับเลี้ยงสัตว์ และพบว่าเธอสามารถฟังภาษาสัตว์ได้ ไปๆมาๆเธอได้ช่วยร้านให้รอดจากการขาดทุนด้วยการขายเสื้อผ้าสำหรับสัตว์ จึงต้องมาทำงานในร้านและได้ออกผจญภัยไปกับเรื่องวุ่นๆของเหล่าสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงเพื่อนๆที่เป็นคนด้วย

ในภาพรวมนั้นในซีซันแรกยังไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่นัก มีหลายๆตอนที่เนื้อเรื่องค่อนข้างตามสูตรสำเร็จมากไปหน่อย และมุขตลกยังฝืดอยู่บ้าง แต่พอเข้าสู่ซีซันที่สอง เนื้อเรื่องกลับสนุกขึ้นมาก โดยเฉพาะการโยงเนื้อเรื่องให้ต่อกัน ซึ่งในการดำเนินเรื่องของ LPS ในหนึ่งตอนจะมีเนื้อเรื่องสองส่วน แล้วเนื้อเรื่องจะดำเนินคู่กันไป บางตอนทั้งสองเรื่องก็เกี่ยวข้องกัน บางตอนทั้งสองเรื่องก็ไม่เกี่ยวข้องกันเลย และก็มีบางตอนที่มีเนื้อเรื่องแค่ส่วนเดียว เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวจับฉ่ายของ Blythe ที่มักจะเจอนั่นเจอนี่ ต้องทำนั่นทำนี่ และต้องใช้ความสามารถในการฟังสัตว์ได้แก้ปัญหาของเธอ ส่วนพวกสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการไปเจอสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆไม่ก็ผจญภัยในจินตนาการ


ความสนุกของเนื้อเรื่องจะอยู่ที่ความน่ารักของพวกสัตว์นี่แหละ ที่ผมชอบคือตอน Standup Stinker ที่ Minka อยากจะไปดาวอังคาร พวกสัตว์ตัวอื่นๆก็พยายามทำให้เหมือนว่าไปถึงดาวอังคารจริงๆ ซึ่งผมว่าตอนนี้น่ารักและสนุกดี มุขตลกก็เป็นแบบร่วมสมัยคือล้อเลียนบุคคล, ล้อเลียนเหตุการณ์, ล้อเลียนหนังอะไรพวกนี้ แถมมุขก็ค่อนข้างทำออกมาดี ไม่มี "ความเป็นหญิง" มากเท่าไหร่นัก มีช่วงเวลาขำๆหลายตอนเหมือนกัน

แต่น่าเสียดายที่พอเป็นเนื้อเรื่องฝั่งคนนั้น แทบจะไร้สาระและไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่เลย ฝั่งคนนั้นจะมีตัวหลักอยู่ที่ Blythe กับผู้ร้ายเป็นสองศรีพี่น้อง Biskit ที่ชื่อ Brittany กับ Whittany (แต่ผมฟังยังไงๆก็ได้ยินเป็นแค่ บริทนี่ กับ วิทนี่ ไม่ใช่ บริททานี่ กับ วิททานี่) ที่บางตอนก็เป็นปัญหาจากทาง Blythe เอง บางตอนก็เป็นปัญหากับทางสองพี่น้องนั่น ประเด็นคือสองพี่น้องนั่นโคตรบิทช์จนน่ารำคาญ เป็นตัวละครประเภทรวยเอาแต่ใจ ทำอะไรตามสเต็ปตัวละครจนแทบไม่มีความบันเทิงใจในการดูอะไรเลยแม้แต่น้อย การดำเนินเรื่องก็เนิบและน่าเบื่ออย่างมาก เพราะมันเหมือนมานั่งดูชีวิตประจำวันของ Blythe แบบนั้นเลย ซึ่งตรงกันข้ามกับพวกสัตว์ที่จะเป็นการดำเนินเรื่องแบบจินตนาการผสมกับการพยายามทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ มันดูสนุกและบันเทิงใจกว่าเยอะ (เช่นตอนไปดาวอังคาร)


การดำเนินเรื่องนั้นยังขาดความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่อง หลายๆตอนแถเนื้อเรื่องและจบแฮปปี้เอนดิ้งอย่างไร้เหตุผล ทำให้รู้สึกเหมือนโดนดูถูกสติปัญญายังไงไม่รู้ รวมไปถึงเนื้อเรื่องบางอย่างขาดเหตุผล เช่นเรื่อง Blythe ฟังภาษาสัตว์ได้นี่แหละ มันไม่มีอธิบายเลยว่าทำไม Blythe เป็นคนเดียวที่ฟังรู้เรื่อง คือที่ต้องการไม่ใช่แบบวิทยาศาสตร์อะไรพวกนั้นนะ แต่แบบมีเหตุผลหน่อยว่าเป็นศิลาวิเศษอะไรก็ได้ แต่นี่คือไม่อธิบายเลย แล้วก็ในซีซัน 3 ตอนที่ 4 แมวชื่อ Sugar Sprinkle สามารถสะกดจิตคนให้รักกันได้ด้วยเพลง....ทำได้ไง? เหมือนเดิม ไม่มีเหตุผลให้ ผมเข้าใจนะว่าเป็นการ์ตูนเด็ก แต่มีเหตุผลหน่อยสิ เด็กไม่ได้โง่นะ


ในแง่ของงานภาพนั้นทำได้อย่างน่าประทับใจดี ถึงแม้ตัวละครจะดูแบนๆไปหน่อย แต่ในงานแอนิเมชั่นทำได้ดี การออกแบบตัวละครพวกสัตว์นั้นทำได้ค่อนข้างดีเลยล่ะ ทั้งตัวหลักและตัวประกอบ ล้วนน่ารักน่าหยิกกันทั้งนั้น อุปนิสัยตัวละครก็โดดเด่นดี ตัวละครทุกตัวจะมีจุดเด่นและจุดด้อยอยู่ในตัว แล้วเนื้อเรื่องในตอนก็จะเป็นการหยิบนิสัยของตัวละครพวกนี้ออกมาใช้ ทำให้ในแต่ละตอนเนื้อหาดูเป็นธรรมชาติดี ไม่ได้รู้สึกเหมือนถูกบังคับให้ทำตัวงี่เง่าเพื่อเข้ากับตอนนั้นๆเลย

แต่มันดีแค่พวกสัตว์นี่สิ ตัวละครฝั่งคนนั้นตรงกันข้ามเพราะไม่มีความน่าสนใจและความสวยงามแม้แต่น้อย ขนาด Blythe ที่เป็นตัวเอก ผมดูมาจะหกสิบกว่าตอนแล้วยังไม่เห็นว่าจะมีความน่าสนใจหรือน่ารักตรงไหนเลย แถมยังเป็นตัวละครเกือบๆสมบูรณ์แบบเต็มขั้น เก่งไปหมดซะทุกเรื่อง ตัวละครคนอื่นๆก็เหมือนกัน ไม่มีความโดดเด่นอะไรเลย หลายๆครั้งที่ตัวละครถูกยัดลักษณะแปลกๆมาเพื่อสร้างจุดเด่น เช่น Mona Autumn ที่เป็นพวกจุกจิก ออกคำสั่งทีละหลายสิบอย่างจนเลขาจะบ้าตาย ซึ่งเรียกได้ว่าถ้าตัวละครมนุษย์คนไหนไม่มีจุดเด่นแบบนี้ ผมแทบจะลืมเลยว่าชื่ออะไร (อย่างเพื่อน Blythe ผมก็ลืมชื่อไปแล้ว เพราะไม่ค่อยโผล่มา) แต่อย่างน้อยๆส่วนตัวผมชอบที่ Blythe มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าตลอดทำให้ดูสมจริงว่าเป็นคนชอบแฟชั่น


แต่สิ่งที่ทำให้ LPS โดดเด่นกว่าการ์ตูนขายเด็กผู้หญิงเรื่องอื่นๆ คือ เพลง ซึ่ง LPS พิสูจน์ให้พวกเราเห็นว่า Daniel Ingram แกแต่งเพลงได้ทุกแนวจริงๆ แนวเพลงของ LPS จะต่างกับ FiM ใน FiM เพลงจะเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่สไตล์เพลงแต่ละเพลงจะไม่ต่างกันอย่างชัดเจนมากนัก (นานๆจะต่างทีนึง เช่น เพลงแร๊ปของ Pinkie) แถมคนร้องก็น้อย (ส่วนใหญ่ Pinkie เหมาหมด) แต่ใน LPS สไตล์เพลงจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะมีตั้งแต่เพลงร็อคส่ายสะโพกแบบยุค 50 ไปจนถึง Synthpop, แซมบ้า, แร๊ปดวลกัน และ หนังอินเดีย แถมนักร้องก็มีหลายคน เพราะทุกคนช่วยกันร้อง และบางครั้งก็ไม่ได้ใช้ตัวละครในเรื่องร้อง เลยทำให้มีหลายเสียง เรียกได้ว่าหลากหลายมากกว่าทาง FiM (ถึงขนาดทำตอนสั้นเน้นเพลงอย่างเดียวด้วยนะ)

Littlest Pet Shop - All Season 2 Songs -1080p- โดย LexLightlikesMLPFiM

และเพราะ LPS ใช้แนวเรื่องว่าพวกสัตว์สามารถจินตนาการฉากต่างๆขึ้นมาได้ ทำให้ภาพประกอบเพลงของ LPS ดูโดดเด่น ช่วยให้การฟังไปดูไปทำได้เพลิดเพลินอย่างยิ่ง จริงๆผมเสียดายคือ LPS ไม่ได้มีแฟนๆที่เหนียวแน่นเท่า FiM ทำให้ไม่มีการขายเพลงแบบ FiM ใจจริงผมอยากให้ทำ เพราะเพลงเรื่องนี้มันดีจริงๆ

ทิ้งท้ายว่ามีตอนนึงที่มีฉากที่ค่อนข้างหลอนอยู่นิดๆด้วย ซึ่งผมเห็นว่าไม่ควรมีเลย เพราะผมมาดูเรื่องนี้ผมอยากดูสัตว์น่ารักๆ ไม่ใช่มาดูแบบนี้

dafuq did I just saw?

สรุปคือเรื่องนี้คือการ์ตูนที่ขายเด็กผู้หญิง แต่ทีมสร้างพยายามยกระดับตัวเองให้เข้าสู่ระดับทุกเพศทุกวัย แน่นอนว่างานภาพที่สดใสและเนื้อหาที่โลกสวยตลอดมันคือลักษณะของการ์ตูนเด็กผู้หญิง ซึ่งผู้ชายอาจจะไม่กล้าดู แต่พวกมุขตลกอะไรพวกนี้ค่อนข้างทำออกมาดี (ต้องดูซีซันหลังๆ) และสนุกได้แม้ไม่ใช่ผู้หญิง ถึงตัวละครและเนื้อเรื่องฝั่งมนุษย์จะไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ แต่ถ้าชอบอะไรน่ารักๆและชอบมุขตลกแบบฝรั่งนะ เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเลยล่ะ แถมไม่น่าเบื่อเหมือนการ์ตูนผู้หญิงอื่นๆด้วย


สรุป

+ เพลงประกอบดีมากๆ

+ เนื้อเรื่องสนุก น่ารัก

+ ตัวละครสัตว์ออกแบบดี

+ มุขตลกฮาดี

+ เรื่องจะเริ่มสนุกที่ซีซัน 2

- ขาดเหตุผลรองรับในบางเรื่อง

- บทสรุปบางตอนค่อนข้างแถไปหน่อย

- การออกแบบตัวละครมนุษย์ไม่ค่อยโดดเด่นและไม่ดีเท่าตัวละครสัตว์

คะแนน


สรุปเรื่องนี้เต็มสิบผมให้ Zoe Trent

ตอนที่แนะนำ
Gailbreak, Eve of Destruction, Standup Stinker, Tongue Tied, Sweet Pepper

เพลงที่แนะนำ
ฺIf You're a Guy, Crush, The Sweet Shop Song, Pet Friendly Skies, Dance Fu Fighting, Cyril McFlip

2 comments:

  1. อยากจะถามว่า หาโหลดได้ที่ไหนบ้างครับ

    ขอบคุณครับ

    ReplyDelete