ว่ากันว่าคอนเซ็ปท์ของสัตว์เดินสองขาเนี่ย เป็นไอเดียที่มักใช้กันดาษดื่นทั้งในโลกของการ์ตูน เกม และนิยาย เนื่องด้วยเพราะสัตว์เป็นสิ่งที่คู่กับมนุษย์มาตลอดทำให้เราสามารถเข้าใจตัวละครในเรื่องได้ทันทีว่าตัวลักษณะละครจะออกมาเป็นยังไง สิงโตต้องเป็นหัวหน้า แมวชอบทำตัวลึกลับ จิ้งจอกต้องเจ้าเล่ห์ หนูต้องขี้ขโมย หมูต้องอ้วน ฯลฯ ดังนั้นเมื่อ Zootopia ปรากฎตัวขึ้นมานั้นจึงสร้างความน่าสนใจอะไรได้หลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นการนำสัตว์มาเป็นตัวเอกอีกครั้งซึ่งเคยเป็นของถนัดของ Disney สมัย 2D และ Frozen กับ Tangled เป็นตัวอย่างที่ดีว่า Disney สามารถฉีกแนวเดิมๆที่เคยทำออกไปได้ จึงไม่แปลกอะไรที่คนจะสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ (รวมถึงผมด้วย)
โครงเรื่องของ Zootopia เป็นการกัดสังคมเกี่ยวกับเรื่องการแบ่งสีผิว แบ่งชนชาติ โดยในเรื่องนั้นสัตว์มีสองพวกคือผู้ล่ากับเหยื่อ เมื่อเวลาผ่านไปก็วิวัฒนาการจนเดินสองขาและเลิกกินสัตว์อื่น แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังมีการแบ่งพวกแบ่งเผ่ากันอยู่ดี Judy Hopps เป็นกระต่ายจากบ้านนอกที่ฝันอยากจะเป็นตำรวจในเมือง Zootopia เมืองที่มีสโลแกนว่าจะเป็นอะไรก็ได้ เมื่อเธอได้เป็น เธอได้พบกับคดีสัตว์หายตัวไป เธอจึงถูกสั่ง(แกมไล่)ว่าต้องไขคดีนี้ให้ได้ภายใน 48 ชั่วโมง และมีสัตว์อยู่ตัวเดียวที่ช่วยเธอได้คือ Nick Wilde ซึ่งเป็นจิ้งจอก
ประเด็นหลักของ Zootopia คือเรื่องของการพยายามเพื่อเอาชนะการแบ่งแยก ที่หลายครั้งตัวละครจะโดนกีดกัน โดนเหยียด เพราะเป็นเผ่าที่ต่างจากเผ่าอื่นๆ เช่น Judy ที่ตอนแรกถูกกีดกันด้านการทำงาน กับ Nick ที่ตอนแรกช้างไม่ยอมขายไอติมให้ และกลายเป็นประเด็นสำคัญในเรื่อง ซึ่งเป็นบทเรียนที่น่าสนใจและเข้าใจเหตุผลที่ Disney เลือกสัตว์ เพราะมันสื่อได้ง่ายกว่าเหมาะสำหรับเด็กๆ เพราะถ้าเลือกเป็นชาติจริงๆเดี๋ยวดราม่า
สิ่งที่ต้องชมคือการออกแบบคาแรคเตอร์ของเรื่องนี้ทำได้ดีมากจริงๆคือมันมีทั้งตัวละครที่น่ารักน่าชังมากๆ อย่าง Judy, Clawhauser, Bellweather ตัวละครซีเรียสดูดุร้ายอย่างพวก Timberwolf และ เสือดำที่พวก Judy ไปเจอ รวมไปถึงตัวละครเล็กๆน้อยๆอย่างช้าง ยีราฟ และหนู พวกนี้ออกแบบได้ดี มีเสน่ห์มากๆ ขณะเดียวกันต้องชื่นชมรายละเอียดของเรื่องนี้ คนสร้างออกแบบโลกของ Zootopia ให้เป็นการผสมผสานสัตว์หลายขนาดได้อย่างดี (แต่แค่กลางเมืองเท่านั้นแหละ พอออกนอกเมืองไม่ค่อยเห็น) เมืองถูกแบ่งออกเป็นหลายภูมิอากาศ จะเห็นสัตว์หลายชนิดอยู่ร่วมกัน ซึ่งผมว่ามันบันเทิงใจดีพอสมควรทั้งจากเด็กผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องงานภาพหายห่วง คุณภาพดีไม่ผิดหวัง
น่าเสียดายที่การดำเนินเรื่องนั้นค่อนไปทาง cliche อย่างมาก เช่น Mr.Big ที่พอได้ยินชื่อรู้เลยว่าต้องเป็นหนูตัวเล็กๆ หรือตอนที่ Judy ถ่ายคลิปหลักฐานกับผู้ร้ายมันก็ต้องมีคนโทรศัพท์เข้ามา ซึ่งถึงจะไม่ใช่เรื่องน่ารำคาญ มันก็ทำรู้สึกว่ามันตามสูตรสำเร็จมากไปจนไม่รู้สึกแปลกใหม่ แต่ทว่าถ้าไม่นับตรงนั้นแล้ว Zootopia นับได้ว่าเป็นการ์ตูนที่ดำเนินเรื่องได้สนุกมาก หนังสมดุลได้ดีะรหว่างการสืบสวน ดราม่า และบทตลก มีทั้งฉาก chase scene ไวๆที่ตื่นเต้น มีฉากสืบสวนสอบสวนพ่วงฉากโต้คารมเฉือนเหลี่ยมพ่อแง่แม่งอนกันระหว่าง Judy กับ Nick และมีฉากตลกที่เรียกเสียงฮาได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันทำให้ทุกวินาทีของหนังสนุกตลอดเวลา อันนี้ต้องชมเลยว่าผมไม่ได้เห็นการ์ตูนที่บาลานซ์เรื่องได้ดีแบบนี้มาตั้งนาน
แต่กระนั้นบางฉากก็ยังนับว่าไม่หนักแน่นพอเท่าไหร่ เช่นฉาก Judy ร้องไห้ช่วงท้าย หรือฉากผิดใจกัน มันดูไม่หนักแน่นพอจนทำให้ผมรู้สึกแบบ "เอ็งเป็นอะไรของเอ็งฟร่ะ?" รวมไปถึงช่วง Climax ที่ไม่ค่อยเต็มร้อยเท่าไหร่ทั้งๆที่ฉากยังไม่ Climax กลับทำได้สนุกมากๆ (ส่วนนึงเพราะมันพอเดาๆได้ว่าอะไรเป็นอะไร)
Zootopia เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สนุกมากไปกับการดำเนินเรื่องและบทตลกของมัน ประเด็นอย่างการแบ่งแยกถูกทำออกมาง่ายๆให้เด็กเข้าใจแต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการเสียดสีสังคมไปในตัวด้วยซึ่งผู้ใหญ่จะเข้าใจดี จะเป็นผู้ใหญ่ดูเองสนุกหรือจะจูงลูกจูงหลานไปดูก็ได้ทั้งนั้น และถ้าใครจะบอกว่านี่เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ดีที่สุดของ Disney ผมว่าไม่ผิดนักหรอก
สรุป
+ ตัวละครออกแบบดี รายละเอียดดี
+ บทเรียนและประเด็นแปลกใหม่น่าสนใจ
+ บาลานซ์บทต่างๆได้ดีมาก เนื้อเรื่องสนุกมาก
+ บทตลกทำออกมาดี เรียกเสียงฮาได้ทั้งเรื่อง
ประเด็นหลักของ Zootopia คือเรื่องของการพยายามเพื่อเอาชนะการแบ่งแยก ที่หลายครั้งตัวละครจะโดนกีดกัน โดนเหยียด เพราะเป็นเผ่าที่ต่างจากเผ่าอื่นๆ เช่น Judy ที่ตอนแรกถูกกีดกันด้านการทำงาน กับ Nick ที่ตอนแรกช้างไม่ยอมขายไอติมให้ และกลายเป็นประเด็นสำคัญในเรื่อง ซึ่งเป็นบทเรียนที่น่าสนใจและเข้าใจเหตุผลที่ Disney เลือกสัตว์ เพราะมันสื่อได้ง่ายกว่าเหมาะสำหรับเด็กๆ เพราะถ้าเลือกเป็นชาติจริงๆเดี๋ยวดราม่า
Nick ทำหน้าทะเล้นๆหรือ Judy ทำท่าน่ารักๆนี่เป็นอะไรที่ผมว่าโคตรคุ้มค่าตั๋ว (และค่า Blu-ray ในอนาคตของผมด้วย)
สิ่งที่ต้องชมคือการออกแบบคาแรคเตอร์ของเรื่องนี้ทำได้ดีมากจริงๆคือมันมีทั้งตัวละครที่น่ารักน่าชังมากๆ อย่าง Judy, Clawhauser, Bellweather ตัวละครซีเรียสดูดุร้ายอย่างพวก Timberwolf และ เสือดำที่พวก Judy ไปเจอ รวมไปถึงตัวละครเล็กๆน้อยๆอย่างช้าง ยีราฟ และหนู พวกนี้ออกแบบได้ดี มีเสน่ห์มากๆ ขณะเดียวกันต้องชื่นชมรายละเอียดของเรื่องนี้ คนสร้างออกแบบโลกของ Zootopia ให้เป็นการผสมผสานสัตว์หลายขนาดได้อย่างดี (แต่แค่กลางเมืองเท่านั้นแหละ พอออกนอกเมืองไม่ค่อยเห็น) เมืองถูกแบ่งออกเป็นหลายภูมิอากาศ จะเห็นสัตว์หลายชนิดอยู่ร่วมกัน ซึ่งผมว่ามันบันเทิงใจดีพอสมควรทั้งจากเด็กผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องงานภาพหายห่วง คุณภาพดีไม่ผิดหวัง
น่าเสียดายที่การดำเนินเรื่องนั้นค่อนไปทาง cliche อย่างมาก เช่น Mr.Big ที่พอได้ยินชื่อรู้เลยว่าต้องเป็นหนูตัวเล็กๆ หรือตอนที่ Judy ถ่ายคลิปหลักฐานกับผู้ร้ายมันก็ต้องมีคนโทรศัพท์เข้ามา ซึ่งถึงจะไม่ใช่เรื่องน่ารำคาญ มันก็ทำรู้สึกว่ามันตามสูตรสำเร็จมากไปจนไม่รู้สึกแปลกใหม่ แต่ทว่าถ้าไม่นับตรงนั้นแล้ว Zootopia นับได้ว่าเป็นการ์ตูนที่ดำเนินเรื่องได้สนุกมาก หนังสมดุลได้ดีะรหว่างการสืบสวน ดราม่า และบทตลก มีทั้งฉาก chase scene ไวๆที่ตื่นเต้น มีฉากสืบสวนสอบสวนพ่วงฉากโต้คารมเฉือนเหลี่ยมพ่อแง่แม่งอนกันระหว่าง Judy กับ Nick และมีฉากตลกที่เรียกเสียงฮาได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันทำให้ทุกวินาทีของหนังสนุกตลอดเวลา อันนี้ต้องชมเลยว่าผมไม่ได้เห็นการ์ตูนที่บาลานซ์เรื่องได้ดีแบบนี้มาตั้งนาน
Zootopia เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สนุกมากไปกับการดำเนินเรื่องและบทตลกของมัน ประเด็นอย่างการแบ่งแยกถูกทำออกมาง่ายๆให้เด็กเข้าใจแต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการเสียดสีสังคมไปในตัวด้วยซึ่งผู้ใหญ่จะเข้าใจดี จะเป็นผู้ใหญ่ดูเองสนุกหรือจะจูงลูกจูงหลานไปดูก็ได้ทั้งนั้น และถ้าใครจะบอกว่านี่เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ดีที่สุดของ Disney ผมว่าไม่ผิดนักหรอก
สรุป
+ บทเรียนและประเด็นแปลกใหม่น่าสนใจ
+ บาลานซ์บทต่างๆได้ดีมาก เนื้อเรื่องสนุกมาก
+ บทตลกทำออกมาดี เรียกเสียงฮาได้ทั้งเรื่อง
- cliche เยอะ
- บางฉากยังอ่อนไปหน่อย
- Climax สู้ตอนยังไม่ Climax ไม่ได้ (ถ้าไม่คิดอะไรมากมันก็โอเคนะ)
- บางฉากยังอ่อนไปหน่อย
- Climax สู้ตอนยังไม่ Climax ไม่ได้ (ถ้าไม่คิดอะไรมากมันก็โอเคนะ)
คะแนน: 10/10
No comments:
Post a Comment