[Review] Friendship is Magic - Season 5 Episode 1 & 2: The Cutie Map



หลังจากรอมา 11 เดือนในที่สุดเหล่าม้าน้อยทั้ง 6 ก็ได้กลับมาโลดแล่นทางจอทีวีอีกครั้ง หลังจากที่ทิ้งท้ายซีซันที่แล้วกับปราสาทหลังใหม่และบทบาทใหม่ของเจ้าหญิง Twilight แต่มันคุ้มสมการรอคอยหรือเปล่า?

เรื่องเริ่มขึ้นที่เหล่าตัวเอกได้รับภารกิจใหม่จากแผนที่ในปราสาท ซึ่งที่นั่นพวกเธอได้พบกับเมืองของ Starlight Glimmer ที่ใช้เวทมนตร์จากคทาดึง Cutie Mark ของชาวเมืองออกไปเพราะเชื่อว่าถ้าไม่มีใครเก่งกว่าใคร ทุกคนจะได้มิตรภาพที่แท้จริง


สิ่งแรกที่ต้องชมทีมงานคือการเปิดตัวของตอนนี้ทำได้น่าสนใจมากๆ คือเราคาดหวังจะได้เจอสัตว์ประหลาดแบบซีซันที่ผ่านมา (แบบที่ Rainbow Dash พูดนี่แหละ) แต่เปล่าเลย เราได้พบกับม้าธรรมดา และไอ้ความธรรมดานี่แหละที่กลับสร้างสีสันของตอนนี้ได้อย่างดี

สีสันของตอนนี้คือการดำเนินเรื่องที่แฝงปริศนาไว้ เมื่อเรื่องดำเนินเรื่องไปจะเริ่มมีขมวดปมให้เล็กน้อย เช่น เมืองนี้มันเป็นยังไง? Cutie Mark ของทุกคนอยู่ที่ไหน? นอกเหนือจากนั้นการแทรก "ความสยอง" ของรอยยิ้มหลอกๆ และความน่ากลัวตอนที่ทุกคนถูกล้อมไว้ เป็นอารมณ์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยในซีซันที่ผ่านมา


อย่างที่สองคือการเขียนบทที่แหวกแนวและน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยปกติเรามักจะเจอเหล่าร้ายที่ถูกครอบงำด้วยพลังแห่งความชั่วร้าย แต่สำหรับ Starlight นั้นไม่ใช่เลย เธอไม่ได้ถูกครอบงำด้วยพลัง เธอมี "ความเห็นที่แตกต่าง" จากพวกตัวเอก มันทำให้เราเห็นการขัดแย้งกับความคิดซึ่งมันก็ถูกทั้งสองฝ่าย (ตอนแรกๆ Twilight ยังยอมรับเลยว่าเท่ากันหมดก็ไม่เห็นเป็นอะไรเพราะทุกคนมีความสุขดี) ซึ่งมันก็เหมือนศาสนา/การเมือง/วัฒนธรรมในโลกของเรา ซึ่งล้วนมีเป้าหมายเดียวกันแต่ต่างวิธีกัน ต้องชื่นชมทีมงานที่กล้าเขียนบทแบบนี้เข้ามาในการ์ตูนม้าน้อย ยิ่งความคิดว่าทุกคนต้องเท่าเทียมกันนี่มันคอมมิวนิสต์ชัดๆเลยนะ

และที่เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์คนดูมากที่สุดคือการที่ให้ตัวเด่นของตอนนี้คือเหล่าชาวเมืองแทน การที่เราได้เห็นเรื่องราวของพวกเขาคู่ไปกับพวกตัวเอก ทำให้เราได้ร่วมลุ้นไปตอนที่พวกเขาหันกลับมาช่วยเหล่าตัวเอก มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากๆและไม่เคยมีมาก่อนเลย


แต่ความแปลกใหม่นั้นต้องแลกมากับอะไรบางอย่างด้วย จุดเสียที่เห็นเด่นชัดที่สุดเลยคือตัวเอกถูกบังคับให้มาพร้อมกันหมดแต่ไม่สามารถแจกบทให้กับทุกคนได้ อย่าง Pinkie หรือ Rainbow หรือ Rarity ที่น่าจะมีบทบาทมากกลับไม่ได้แสดงฝีมืออะไรเลย เหมือนมาแค่ตบมุขให้เท่านั้น

สรุปแล้วสำหรับ 11 เดือนที่รอคอย ซีซัน 5 เปิดตัวได้ไม่ผิดหวัง จริงอยู่ว่าไม่ได้สู้กันอลังการเหมือนที่ผ่านมา แต่การได้พบกับรสชาติใหม่ๆที่ไม่เคยเจอมาก่อน ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ


สรุป

+ การเขียนบท การดำเนินเรื่อง แหวกแนวกว่าซีซันที่ผ่านมา และสนุกด้วย


- บทของพวกตัวเอกน้อยเกินไปหน่อย

คะแนน: 9/10

2 comments:

  1. season นี้น่าจะถูกแบนในจีนสินะ

    ReplyDelete