ผมขอพูดตรงๆก่อนว่า ผมเป็นคนไม่ชอบการเอาเพลงที่มีอยู่แล้วใช้ในการ์ตูน เหตุที่ผมไม่ชอบ ก็เพราะว่าผมรู้สึกว่ามัน "ขี้เกียจ" ไม่อยากแต่งเพลงใหม่ เลยใช้เพลงที่มีอยู่แล้ว ซึ่งตรงข้ามกับพวก Disney ที่แต่งเพลงใหม่ตลอด แต่ไม่ใช่ว่าผมจะรังเกียจหรือต่อต้านมันทุกเรื่อง เพราะอย่าง Regular Show, Angry Birds Movie หรือ Finding Dory ผมยังพอรับได้เพราะเพลงมันแค่ประกอบเฉยๆ หรือก็คือมันไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อเรื่องอะไรแบบนั้น หรือไม่ก็มีแค่ช่วงสองช่วงเท่านั้น
แต่สำหรับ Sing นั้นชูการนำเพลงร่วมสมัยดังๆอย่างเต็มที่ ซึ่งผมเคยบอกแล้วว่าผมเข้าใจ มันเป็นเรื่องราวการประกวดร้องเพลง มันก็ต้องใช้เพลงที่มีอยู่แล้วสิ
แต่มันจะสนุกมั้ย อันนั้นต้องมาดูกันอีกที
เนื้อเรื่องของ Sing เกิดขึ้นในเมืองของสัตว์ Buster Moon โคอาล่าที่ชอบการแสดงละครได้ใช้เงินเก็บของพ่อซื้อต่อโรงละครเพื่อทำละคร แต่กลับขาดทุนเรื่อยๆจนจะถูกยึด Buster เลยใช้เงินที่เหลือ 1,000 เหรียญ เพื่อจัดประกวดร้องเพลง แต่ในระหว่างพิมพ์ใบปลิวเกิดพิมพ์เงินรางวัลผิดพลาดเป็น 100,000 เหรียญ และทำให้สัตว์ทั่วทั้งเมืองเข้ามาแข่งขัน มีตั้งแต่ Johnny กอริลลาลูกชายของโจร Ash เม่นกับแฟนหนุ่นมที่ชอบแนวพังค์ร็อค Rosita แม่หมู Mike หนูผู้เห็นแก่เงิน และ Meena ช้างสาวผู้ขี้อาย เมื่อ Buster รู้ความจริงว่าพิมพ์ผิดเขาจึงต้องหาเงิน 100,000 เหรียญเพื่อให้การแข่งขันเกิดขึ้นให้ได้
สิ่งที่ต้องชมคือ Sing ไม่ได้ดำเนินเรื่องตามสูตรสำเร็จทั่วๆไป โดยเฉพาะเรื่องของตัวละคร กล่าวคือตามปกติตัวละครเอกจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กัน และจะนำไปสู่การผจญภัยหรือการแก้ปัญหา ฯลฯ แต่สำหรับ Sing นั้นกลับต่างออกไป เพราะในเรื่องตัวละครแต่ละตัวจะมีเนื้อเรื่องและปัญหาของตัวเองอยู่แล้ว อย่าง Johnny ก็ต้องช่วยพ่อออกปล้น Mike เองก็มีสาวที่ตามจีบอยู่ Rosita มีลูกที่ต้องดูแล ซึ่งถึงแม้เนื้อหาพวกนี้ไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่หนังสามารถเกลี่ยบทได้ดี (แม้จะมีเอียงนิดๆแต่ถือว่าดี) และการสลับเนื้อเรื่องของแต่ละตัวละครก็ได้จังหวะเหมาะเจาะพอดี (ยกเว้นคนเดียวคือ Gunther ที่ไม่มีเนื้อเรื่องเลยว่ามันเป็นใครมาจากไหน) ตัวละครไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่นักจนมันทำให้รู้สึกว่าทุกคนมารวมตัวกันได้เพราะสิ่งเดียว คือความรักในการร้องเพลง
แต่นั่นทำให้เกิดปัญหาซ้อนตามมาอย่างนึงคือเพราะปฏิสัมพันธ์กับพวกตัวเอกด้วยกันมีน้อย มันทำให้บางฉากบางซีนดูแปลกๆไม่มีเหตุผล อย่างชัดสุดคือ Eddie ที่เป็นเพื่อนสนิทของ Buster ปัญหาคือเวลาเจอหน้ากันคุยแต่เรื่องยืมเงิน ดังนั้นพอถึงฉาก Eddie ไปช่วย Buster มันเลยแปลกๆว่าตกลงพวกเอ็งสนิทกันจริงๆรึเปล่าเนี่ย
นอกจากนั้นถึงแม้การเขียนบทให้ตัวละครแต่ละตัวโอเคและแปลกใหม่ดี แต่การเขียนบทโดยรวมกลับไม่เต็มร้อย หนังไม่ค่อยมีเซอร์ไพรส์ และผมรู้สึกว่าบทของเรื่องนี้มันคงมีการกำหนดบางฉากบางซีนเอาไว้แล้วว่าต้องมีฉากนี้ฉากนี้นะ คนเขียนบทก็เลยต้องหาทางใส่ในซีนพวกนี้ให้ได้ อย่างชัดสุดคือในตัวอย่างหนัง จะมีฉากที่ Rosita เต้นในซุเปอร์มาเก็ต ซึ่งในหนังเหตุผลที่มีฉากนี้คือ จู่ๆ Rosita คิดว่าตัวเองทำไม่ดีเลยขอหนีไปซื้อของ แค่นั้นเอง ซึ่งมันจะมีแปลกๆอยู่แบบนี้อยู่สองสามจุด เช่น Rosita สามารถสร้างกลไกเลี้ยงลูกอัตโนมัติได้แต่ไม่มีที่มาที่ไปว่าทำได้ยังไงหรือ สาวที่ Mike ตามจีบก็เป็นใครไม่รู้ไม่เห็นบอกชื่อ รวมถึงไปตอนจบที่จบห้วนไปหน่อย
อย่างที่บอกไว้ว่าการสลับเนื้อเรื่องอะไรพวกนี้ทำได้ดีและทำให้เนื้อเรื่องสนุก และที่ผมค่อนข้างชอบคือมันไม่ใช่หนังฮาแตกตลอดเวลาแบบ Trolls แต่มันจะมีมุขย่อยง่ายๆสำหรับเด็กอยู่ แต่ในขณะเดียวกันมันมีเนื้อหาที่ซีเรียสแทรกอยู่บ้าง เช่น การนอกใจแฟน (ซึ่งปกติผมไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้ในการ์ตูนเลยนะ) หรือการเผชิญหน้ากับความคาดหวัง ความผิดหวัง ความพยายาม ซึ่งผมชอบคือตัวละคร Buster ที่เป็นลักษณะตัวละครที่พลิกแพลงสถานการณ์เท่าที่สามารถทำได้ ผมชอบซีนพวกนี้นะ สนุกดี
งานภาพไม่มีอะไรติแต่ก็ไม่มีอะไรชม สวยงามตามสมัยนิยม แต่ต้องชมคือฉากร้องเพลงทำดีมากๆ มากซะจนเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ตจริงๆเลย ส่วนพวกตัวละครก็ออกแบบดีนะ ผมชอบที่มันมีความหลากหลาย โดยเฉพาะพวกที่ล้อแนวเพลง อย่างแพนด้าแดงที่ล้อเกิร์ลกรุ๊ปอะไรพวกนี้
ทีนี้มาว่ากันเรื่องเพลงบ้าง ผมยอมรับว่าผมไม่ใช่คนฟังเพลงเท่าไหร่ ผมเลยไม่มีความผูกพันหรือสามารถวิจารณ์เพลงที่มันเลือกมาได้ (จริงๆเรียกชื่อเพลงยังไม่เป็นเลย) แต่ต้องยอมรับคือการเลือกเพลงเลือกได้ดี เข้ากับตัวละครมากๆ อย่าง Mike เน้นเพลงของ Frank Sinatra ซึ่งเข้ากับสไตล์ตัวละครดีไม่น้อย เพลงประกอบฉากต่างๆก็ทำได้ดีจริงๆ จนขนาดผมออกจากโรงแล้วยังรู้สึกอยากจะร้องเพลงจริงๆเลยล่ะ (ซึ่งแบบนี้ไม่เกิดกับใน Trolls เลยนะ)
สรุปแล้ว Sing เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นปิดท้ายที่สนุกไม่เลวเลย ตัวละครดี เนื้อหาแปลกใหม่ และเพลงก็ดีด้วย ผมเข้าโรงไปมีเด็กๆเพียบเด็กก็สนุกกับมุขตลกง่ายๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่อย่างผมได้เห็นเนื้อหาที่ซีเรียสไม่เลวเหมือนกัน
สรุป
+ การมีเนื้อเรื่องของแต่ละตัวละครเองช่วยสร้างความแปลกใหม่
+ ฉากร้องเพลงทำดี เพลงเลือกมาได้ดี
+ มีเนื้อหาซีเรียสอยู่บ้าง
- บทโดยรวมงั้นๆ ความสัมพันธ์ตัวละครไม่ค่อยดีเท่าไหร่
- เนื้อหา cliche หน่อย
- ตอนจบห้วนๆ
- เนื้อหา cliche หน่อย
- ตอนจบห้วนๆ
คะแนน: 8.5/10
No comments:
Post a Comment