เวลาพูดถึงจุดเด่นอย่างนึงของการ์ตูน Disney สมัยก่อนเนี่ย คือเรื่องของความหลากหลายทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็น Hercules กับวัฒนธรรมกรีก, Mulan กับวัฒนธรรมจีน หรือแม้แต่ The Princess Frog กับวัฒนธรรมอเมริกาปี 1912 น่าเสียดายที่พอมาถึงยุค 3D รายละเอียดตรงนี้กลับหายไป Tangled และ Frozen ออก medieval ธรรมดาจนไม่น่าสนใจ
ผมเชื่อว่า Disney เองคงเห็นตรงนี้จึงได้ตั้งใจปั้น Moana ออกมาเพื่อดึงความรู้สึกของวัฒนธรรมที่หลากหลายขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
แต่จะทำได้มั้ยล่ะ?
Moana เป็นเรื่องราวของเทพองค์หนึ่งที่มีพลังแห่งการสร้างสรรค์ หลังจากใช้พลังสร้างชีวิตแล้วก็ได้หลับไหลกลายเป็นเกาะ จากนั้นอสุรกายทั้งหลายต่างตั้งเป้าจะชิงพลังนั้นเป็นของตัวเอง Maui มนุษย์ครึ่งเทพได้มาถึงก่อนและเข้ามาขโมยขุมพลังแห่งการสร้างสรรค์ซึ่งมาในรูปของหินไป แต่ระหว่างทางกลับถูกอสุรกายลาวา Te Ka เล่นงานและหายตัวไป
ผ่านมาหลายพันปี Moana ลูกสาวหัวหน้าเผ่าที่มีหน้าที่ต้องเป็นหัวหน้าเผ่าประจำเกาะ ในวัยเด็กได้พบกับหินและมหาสมุทธมีชีวิตขึ้นมา ทำให้เธอรู้สึกอยากจะออกเดินทาง ผ่านไปหลายปี Moana โตขึ้นจะต้องเป็นหัวหน้าเผ่า และพบว่าภัยมืดได้เริ่มคืบคลานเข้ามาทำให้ Moana รู้สึกว่าจะต้องออกไปคืนหิน ถึงแม้พ่อของเธอจะไม่ยอมให้ไปเพราะมีความหวังฝังใจกับการออกเดินทางไกล แต่สุดท้าย Moana ก็ออกเดินทางเพื่อตามหา Maui
พล็อตเรื่องของ Moana ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เท่าไหร่นัก เรื่องของคำสาป เรื่องของพ่อแม่ห่วงลูกเกินเหตุ และการออกเดินทางเพื่อแก้คำสาป หลายเรื่องใช้กันไปแล้ว รวมไปถึงพล็อตเรื่องมีจุดงี่เง่าอยู่สองสามจุด เช่นว่า Moana เจอหินได้ยังไง? ก็มันลอยมาหาเธอไง แค่นั้นจริงๆ หรือเรื่องที่ทำไม Moana จึงถูกเลือกก็ไม่ได้อธิบายชัดเจนว่าเพราะอะไร
แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ Moana คือองค์ประกอบในเรื่อง ตั้งแต่ตัวละคร งานศิลป์ และเพลง ล้วนสร้างอิงจากวัฒนธรรมพอลินีเชีย ซึ่งเป็นวัฒธรรมชนเพื้นเมืองแถวๆออสเตรเลียมาบอกเล่าใหม่ ซึ่งตรงนี้ผมต้องยกย่องเลยว่าน่าประทับใจมาก ยิ่งเพลงที่ผสมระหว่างภาษาพื้นเมืองกับภาษาอังกฤษนี่ผมชอบเป็นพิเศษเลย และในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นในหมู่เกาะ ดังนั้นจุดขายสำคัญคือทะเล และต้องพูดตรงๆเลยว่ากราฟฟิคน้ำของ Moana น่าประทับใจมากๆ ยิ่งเฉพาะช่วงต้นเรื่องที่ Moana เดินแล้วน้ำแหวกเป็นทาง แต่อีกนัยหนึ่งฉากของ Moana ค่อนข้างน่าเบื่อเพราะมีแต่น้ำ รวมถึงไปไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ (คือมีแต่น้ำกว้างๆ ไม่ได้มีเกาะแก่งเล็กๆอะไรพวกนี้เลย)
Moana ค่อนข้างโฟกัสไปที่บทตลกเป็นหลักมากๆ มากซะจนแทบไม่มีช่วงซีเรียสมาผสมเลย คือตลกก็ตลกยาว ซีเรียสก็ซีเรียสยาวๆ (ไม่เหมือน Tangled ที่มีตลก มีโรแมนติค มีซีเรียสสลับไปมาบ้าง) โดยเฉพาะ "คู่หูตัวเอก" ที่ปกติมีแค่ตัวเดียวหรือสองตัว แต่นี่เล่นมีถึง 3 ตัว คอยมาหยอดมุขตลกตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งดูก็รู้คือหลักๆเพื่อให้ความบันเทิงกับเด็กนี่แหละ ซึ่งผมไม่ได้มองเป็นข้อเสียอะไร แต่แน่นอนว่าคงกะขายของเล่นชัวร์ๆ
จุดเด่นอย่างนึงของเรื่องนี้คือ Moana มีความเป็นผู้นำและกล้าลุยมากกว่าเจ้าหญิงที่ผ่านมาของ Disney ทำให้เรื่องนี้มีบทแอ็คชั่นอยู่บ่อยๆ (หมายถึงฉากที่ต้องใช้พลังน่ะ ไม่ได้แปลว่าต่อสู้อย่างเดียว) ซึ่งสำหรับผมค่อนข้างสนุกกับเนื้อหาส่วนนี้ของเรื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงที่ไม่บู๊ค่อนข้างน่าเบื่อหน่อยๆ อย่างฉากเถียงกันกลับไม่รู้สึกสนุกเหมือนที่ Judy กับ Nick ทำใน Zootopia เลย
แต่สำหรับ Maui ตัวละครเอกฝั่งชายนั้นค่อนข้างน่าเบื่อหน่อยๆ โดยเฉพาะตรงที่พูดตลอดทั้งเรื่องว่าเป็นมนุษย์ครึ่งเทพเก่งกล้าสามารถแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยถ้า Moana ไม่มาช่วย คือพูดตรงๆว่ากากน่ะ ซึ่งทำให้เหมือนหนังพยายามดันตัว Moana ไว้มากเกินไปหน่อย
พูดถึงเรื่องนี้แล้วมันมีประเด็นอยู่นะ คือผมรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นเรื่องแรกของ Disney ที่พยายามผลักดันบทบาทของตัวละครหญิงมากขึ้นให้ทัดเทียมชาย โดยเฉพาะการที่สามารถเอาชนะปัญหาได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้ชาย และการได้เป็นผู้นำเผ่า (โดยปกติวัฒนธรรมสมัยก่อนยังไงให้ผู้ชายเป็นใหญ่อยู่แล้ว ไม่มีทางให้ผู้หญิงเป็นแน่) ซึ่งต่างกับที่ผ่านมาของ Disney คือถึงแม้ตัวเอกเป็นหญิง แต่ยังไงก็ต้องมีผู้ชายเป็นคนช่วยเหลือ แต่อันนี้ไม่เกี่ยวกับตัวหนัง แค่บอกว่าทำแบบนี้มันทำให้ตัวเอกชายด้อยลงไปหน่อย
สรุปแล้วสำหรับผม Moana เป็นหนังที่ดี ถึงแม้มีบกพร่องไปหน่อยบ้างแต่ก็ถือว่ามีความแปลกใหม่มาทดแทน ก็นับว่าคุ้มค่าตั๋วอยู่เหมือนกัน
สรุป
+ งานศิลป์, เพลง, ตัวละคร ทำออกมาดีมาก
+ ฉากแอ็คชั่นสนุกดี
+ Moana เก่ง ทำให้หนังสนุก
ผ่านมาหลายพันปี Moana ลูกสาวหัวหน้าเผ่าที่มีหน้าที่ต้องเป็นหัวหน้าเผ่าประจำเกาะ ในวัยเด็กได้พบกับหินและมหาสมุทธมีชีวิตขึ้นมา ทำให้เธอรู้สึกอยากจะออกเดินทาง ผ่านไปหลายปี Moana โตขึ้นจะต้องเป็นหัวหน้าเผ่า และพบว่าภัยมืดได้เริ่มคืบคลานเข้ามาทำให้ Moana รู้สึกว่าจะต้องออกไปคืนหิน ถึงแม้พ่อของเธอจะไม่ยอมให้ไปเพราะมีความหวังฝังใจกับการออกเดินทางไกล แต่สุดท้าย Moana ก็ออกเดินทางเพื่อตามหา Maui
พล็อตเรื่องของ Moana ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เท่าไหร่นัก เรื่องของคำสาป เรื่องของพ่อแม่ห่วงลูกเกินเหตุ และการออกเดินทางเพื่อแก้คำสาป หลายเรื่องใช้กันไปแล้ว รวมไปถึงพล็อตเรื่องมีจุดงี่เง่าอยู่สองสามจุด เช่นว่า Moana เจอหินได้ยังไง? ก็มันลอยมาหาเธอไง แค่นั้นจริงๆ หรือเรื่องที่ทำไม Moana จึงถูกเลือกก็ไม่ได้อธิบายชัดเจนว่าเพราะอะไร
แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ Moana คือองค์ประกอบในเรื่อง ตั้งแต่ตัวละคร งานศิลป์ และเพลง ล้วนสร้างอิงจากวัฒนธรรมพอลินีเชีย ซึ่งเป็นวัฒธรรมชนเพื้นเมืองแถวๆออสเตรเลียมาบอกเล่าใหม่ ซึ่งตรงนี้ผมต้องยกย่องเลยว่าน่าประทับใจมาก ยิ่งเพลงที่ผสมระหว่างภาษาพื้นเมืองกับภาษาอังกฤษนี่ผมชอบเป็นพิเศษเลย และในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นในหมู่เกาะ ดังนั้นจุดขายสำคัญคือทะเล และต้องพูดตรงๆเลยว่ากราฟฟิคน้ำของ Moana น่าประทับใจมากๆ ยิ่งเฉพาะช่วงต้นเรื่องที่ Moana เดินแล้วน้ำแหวกเป็นทาง แต่อีกนัยหนึ่งฉากของ Moana ค่อนข้างน่าเบื่อเพราะมีแต่น้ำ รวมถึงไปไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ (คือมีแต่น้ำกว้างๆ ไม่ได้มีเกาะแก่งเล็กๆอะไรพวกนี้เลย)
Moana ค่อนข้างโฟกัสไปที่บทตลกเป็นหลักมากๆ มากซะจนแทบไม่มีช่วงซีเรียสมาผสมเลย คือตลกก็ตลกยาว ซีเรียสก็ซีเรียสยาวๆ (ไม่เหมือน Tangled ที่มีตลก มีโรแมนติค มีซีเรียสสลับไปมาบ้าง) โดยเฉพาะ "คู่หูตัวเอก" ที่ปกติมีแค่ตัวเดียวหรือสองตัว แต่นี่เล่นมีถึง 3 ตัว คอยมาหยอดมุขตลกตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งดูก็รู้คือหลักๆเพื่อให้ความบันเทิงกับเด็กนี่แหละ ซึ่งผมไม่ได้มองเป็นข้อเสียอะไร แต่แน่นอนว่าคงกะขายของเล่นชัวร์ๆ
จุดเด่นอย่างนึงของเรื่องนี้คือ Moana มีความเป็นผู้นำและกล้าลุยมากกว่าเจ้าหญิงที่ผ่านมาของ Disney ทำให้เรื่องนี้มีบทแอ็คชั่นอยู่บ่อยๆ (หมายถึงฉากที่ต้องใช้พลังน่ะ ไม่ได้แปลว่าต่อสู้อย่างเดียว) ซึ่งสำหรับผมค่อนข้างสนุกกับเนื้อหาส่วนนี้ของเรื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงที่ไม่บู๊ค่อนข้างน่าเบื่อหน่อยๆ อย่างฉากเถียงกันกลับไม่รู้สึกสนุกเหมือนที่ Judy กับ Nick ทำใน Zootopia เลย
แต่สำหรับ Maui ตัวละครเอกฝั่งชายนั้นค่อนข้างน่าเบื่อหน่อยๆ โดยเฉพาะตรงที่พูดตลอดทั้งเรื่องว่าเป็นมนุษย์ครึ่งเทพเก่งกล้าสามารถแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยถ้า Moana ไม่มาช่วย คือพูดตรงๆว่ากากน่ะ ซึ่งทำให้เหมือนหนังพยายามดันตัว Moana ไว้มากเกินไปหน่อย
พูดถึงเรื่องนี้แล้วมันมีประเด็นอยู่นะ คือผมรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นเรื่องแรกของ Disney ที่พยายามผลักดันบทบาทของตัวละครหญิงมากขึ้นให้ทัดเทียมชาย โดยเฉพาะการที่สามารถเอาชนะปัญหาได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้ชาย และการได้เป็นผู้นำเผ่า (โดยปกติวัฒนธรรมสมัยก่อนยังไงให้ผู้ชายเป็นใหญ่อยู่แล้ว ไม่มีทางให้ผู้หญิงเป็นแน่) ซึ่งต่างกับที่ผ่านมาของ Disney คือถึงแม้ตัวเอกเป็นหญิง แต่ยังไงก็ต้องมีผู้ชายเป็นคนช่วยเหลือ แต่อันนี้ไม่เกี่ยวกับตัวหนัง แค่บอกว่าทำแบบนี้มันทำให้ตัวเอกชายด้อยลงไปหน่อย
สรุปแล้วสำหรับผม Moana เป็นหนังที่ดี ถึงแม้มีบกพร่องไปหน่อยบ้างแต่ก็ถือว่ามีความแปลกใหม่มาทดแทน ก็นับว่าคุ้มค่าตั๋วอยู่เหมือนกัน
สรุป
+ ฉากแอ็คชั่นสนุกดี
+ Moana เก่ง ทำให้หนังสนุก
- Maui กากไปหน่อยนะ
- ฉากในเรื่องและการดำเนินเรื่องบางทีก็น่าเบื่อหน่อยๆ
- พล็อตเรื่องไม่แปลกใหม่และยังไม่ดีพอ ทำไม Moana ถูกเลือกก็ไม่ยอมบอก
- ฉากในเรื่องและการดำเนินเรื่องบางทีก็น่าเบื่อหน่อยๆ
- พล็อตเรื่องไม่แปลกใหม่และยังไม่ดีพอ ทำไม Moana ถูกเลือกก็ไม่ยอมบอก
คะแนน: 8.5/10
เห็นด้วยค่ะ ตอนนั่งดูในโรงจบก็ยังคาใจ อิมหาสมุทรเลือกโมอาน่าเพราะอะไร
ReplyDeleteแต่ข้อนี้ไม่ค่อยคาใจมากเท่าไหร่ คิดว่ามหาสมุทรคงอยากให้โมอาน่ามีความกล้า แต่ถ้าได้พล็อตซัพพอร์ทหน่อยก็ดี
แต่ที่อิคาใจที่สุดคือมหาสมุทรมีพลังช่วยโมอาน่าได้ แต่บางฉากกลับไม่มาช่วย ทั้ง ๆ ที่โมอาน่าเรียก
คือหนูเป็นอะไรอยู่คะ หลับหรือไปเตร็ดเตร่ที่ไหน 555 มันเลยดูย้อนแย้งหน่อย ๆ อะ
แต่เจ้ขอค้าน! 555 การดำเนินเรื่องเจ้ว่าไม่น่าเบื่อนะ อาจจะมีรู้สึกนิ่ง ๆ ช่วงเมาอิทะเลาะกับโมอาน่า เพราะว่าในตัวหนังเงียบจริง ๆ
ส่วนเพลงไม่ค่อยประทับใจในเวอร์ชั่นไทย ลงท้ายด้วยคำว่า "ใด" ไม่ตรงกับรูปปากที่สุด และกั๊กพลังเสียงด้วย กั๊กพลังไม่ได้หมายความว่าจะให้ร้องตะโกนเหมือน let it go นะ แต่ถ้าลงท้ายด้วยเสียง "-า" หรือ "โ-" ไม่ก็ "เ-" พื้นฐานเสียงของสระมันส่งให้เวลาร้องมีพลังไปโดยอัตโนมัติแล้วอะ และจะเข้ารูปปากมากกว่า เจ้นั่งดูในโรงมีท่อนร้องคำนี้แหละที่ไม่ตรงกับรูปปากอย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยดูการ์ตูนดิสนีย์มา อีกมุมหนึ่งเป็นเพราะว่าซูมไปที่ปากใกล้ด้วย