ณ บริษัท Hasbro ขณะกำลังเขียนเนื้อเรื่องของตอนใหม่
นักเขียน A: เฮ้ เราลืมอะไรไปรึเปล่า?
นักเขียน B: ไม่มั้ง
นักเขียน C: เอ้อ งั้นเราเขียนตอน “นั่น” มั้ยล่ะ?
นักเขียน A: นั่นไหน?
นักเขียน C: ก็….แผนที่ไง
นักเขียน A, B: อ๋อ!!!
ผมว่ามันแบบนี้ชัวร์เลย
ตอนนี้เปิดมาให้ความรู้สึกเหมือนทีมงานเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าแผนที่มันยังใช้งานได้นี่หว่า ก็เลยเล่าว่า ผลจากตอนสุดท้ายของซีซัน 5 แผนที่ใช้งานไม่ได้ Twilight กับ Starlight ฝึกเวทมนตร์เพื่อกระตุ้นให้แผนที่กลับมาทำงานอีกครั้ง และเมื่อแผนที่ใช้ได้งานได้ก็เลยเลือก Rarity กับ Pinkie ให้ไปยัง Canterlot
จริงๆแล้วเรื่องนึงที่ผมอยากบ่นเกี่ยวกับตอนแผนที่มาตลอดคือ ผมรู้สึกเหมือนตัวละครไม่มีบทบาทเต็มที่เท่าไหร่นัก อย่างตอน The Cutie Map ที่ไปยกแก๊งแต่มีบทบาทแทบนับหัวได้ ตอน Made in Manehattan ก็ Rarity ไม่ได้ทำอะไรที่สำคัญเลย ส่วน Hooffields and McColts เอง Fluttershy ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลย เหลือแต่ The Lost Treasure of Griffonstone เท่านั้นแหละที่ผมว่าเขียนบทได้ครบถ้วนดี ดังนั้นสำหรับการกลับมาของตอนแผนที่ (ซึ่งนี่ 12 แล้ว ครึ่งซีซันแล้วนะ) ผมก็คาดหวังว่ามันน่าจะเขียนได้ดีขึ้นหน่อยนึง
Rarity กับ Pinkie เดินทางไปที่ Canterlot และเกิดหิวขึ้นมาเลยไปกินอาหาร Rarity เน้นให้เข้าร้านที่มีนักวิจารณ์ชื่อดังให้ 3 กีบ แต่ปรากฏว่าอาหารไม่อร่อยและเหมือนกันหมด และนั่นทำให้ทั้งสองได้พบกับอาหารอินเดีย (คือโลกม้ามันคงไม่มีอินเดียหรอก แต่มันก็อินเดียนั่นแหละ) ซึ่งอร่อยมาก แต่ไม่มีใครมากินเพราะนักวิจารณ์ไม่ยอมมาวิจารณ์ก็เลยทำให้ไม่มีลูกค้า ดังนั้น Pinkie กับ Rarity เลยอาสาการแก้ปัญหา
สิ่งที่ต้องชมคือการให้ Rarity กับ Pinkie มาแก้ปัญหาในตอนนี้นั้นเลือกได้อย่างเหมาะสมดีและทำให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างทั้งสองที่น่าสนใจมากๆ Rarity อยู่กับวงการแฟชั่นที่มีกระแสอยู่ตลอด ดังนั้นเธอต้องทำตามกระแสเพื่อความนิยมและเพื่อให้นักวิจารณ์ยอมรับด้วยการทำสิ่งที่นักวิจารณ์ต้องการ (แม้จะขัดไปหน่อยคือ Rarity เคยได้รับบทเรียนว่าเป็นตัวของตัวเองถึงจะดีที่สุดแล้วก็ตาม) ขณะที่ Pinkie นิสัยรักสนุก จึงเชื่อว่าอย่าไปเปลี่ยนแปลงอะไรเป็นตัวของตัวเองถึงจะดีที่สุด และนั่นทำให้เกิดประเด็นที่น่าสนใจระหว่างสองฝ่าย
ประเด็นสำคัญที่ตอนนี้อยากจะสื่อคือนักวิจารณ์มีอิทธิพลต่อเรามากจนเกินไป จนเราทำตามที่นักวิจารณ์ต้องการไปซะหมด (อย่างเรื่องคะแนนมะเขือเน่าที่แฟนบอยชอบใช้กัดกันไปมา) ในเรื่องนั้นตัวนักวิจารณ์มีอิทธิพลต่อร้านอาหารมากจนทำให้ไม่มีใครกล้าทำอะไรแตกต่าง (Rarity เองก็ด้วย) ดังนั้นสิ่งที่ทั้งสองทำไม่ใช่แค่การทำให้ร้านโด่งดัง แต่เป็นการเรียกความมั่นใจจากคนทำอาหารในเมืองให้อยากมาทำอาหารสไตล์ตัวเองไม่แคร์นักวิจารณ์นั่นเอง ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจดี
นอกจากนั้นตัวละครใหม่ของตอนนี้ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ นักวิจารณ์ตัวร้ายนั้นก็เข้า cliche ประเภท “นักวิจารณ์มีอิทธิพลแต่ไม่รู้จักของดีๆ” ซึ่งเห็นจนเกร่อจนไม่น่าสนใจอะไร (ขนาด Ratatouille ยังไม่ใช้ตัวละครลักษณะนี้เลย) ตัวสองพ่อลูกเจ้าของร้านอาหารอินเดียก็ออกแบบดีแต่กลับไม่มีอุปนิสัยที่น่าสนใจเท่าไหร่นอกจากคนนึง "กลับบ้าน" คนนึง "เราต้องทำอาหารต่อ" แค่นั้นแหละ
ความเป็นอินเดียตอนนี้ทำออกมาได้ดีนะ อาหารทำออกมาน่ากินดี เพลงอินเดียก็แปลกดี (ถือว่าได้คนละฟีลลิ่งกับเพลง Bollywood ใน Littlest Pet Shop ดีนะ) Spice Up Your Life เป็นตอนที่แปลกใหม่และสนุกดี แม้จะอ่อนในแง่ของเนื้อหาไปหน่อย แต่ถือว่าเป็นตอนที่ดีนะ
สรุป
+ เนื้อหาสไตล์อินเดียแปลกใหม่ดี
- ตัวละครไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่
- เนื้อหาไม่ได้จริงจังจนน่าจะเป็นตอนแผนที่ (คือให้มันใหญ่จริงๆสำคัญจริงๆหน่อยก็คงดี)
- เนื้อหาไม่ได้จริงจังจนน่าจะเป็นตอนแผนที่ (คือให้มันใหญ่จริงๆสำคัญจริงๆหน่อยก็คงดี)
คะแนน: 8/10
No comments:
Post a Comment