ถ้าพูดถึงภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สนุก หลายครั้งผมมักมีปัจจัยเรื่องความสนุกแบบ "ซีเรียส" เข้ามาด้วย เช่นเนื้อเรื่องที่ซับซ้อน หรือตัวละครที่มีความลึก ทำให้เมื่อผมได้ข่าวว่า Peanuts หนึ่งในการ์ตูนยุคเก่ากำลังจะทำเป็นหนังใหญ่ ความคิดแรกของผมคือมันจะทำได้ยังไง ในเมื่อ Peanuts ไม่มีองค์ประกอบแบบนั้นซะหน่อย แต่เมื่อผมออกจากโรงหนัง ผมก็ต้องพูดเลยว่า Blue Sky Studios ทำได้จริงๆด้วย พวกเขาสร้างหนังตอนยาวของ Peanuts ที่ครบถ้วนความเป็น Peanuts และยังสนุกสนานเทียบเท่าหนังใหญ่ๆได้ไม่อายเลย
The Peanuts Movie เป็นการ์ตูนที่สร้างมาจากการ์ตูนในหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นตอนสั้นๆ ดังนั้นแล้วการดำเนินเรื่องของ The Peanuts Moive จะรู้สึกแบบนั้นเลย คือมันเหมือนกับเป็นตอนสั้นๆเอามาปะติดปะต่อกันเป็นตอนยาว เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก เน้นไปที่ Charlie Brown เด็กห่วยที่ทำอะไรไม่ค่อยจะได้ที่อยากสนิทกับเด็กสาวผมแดงที่เพิ่งย้ายมาใหม่ และมีการสลับไปที่นิยายของ Snoopy ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Snoopy ต่อสู้กับนักบิน Red Baron
จุดสำคัญมันอยู่ตรงนี้แหละ The Peanuts Movie ไม่ใช่การ์ตูนที่มีเนื้อหาสลับซับซ้อนแบบเรื่องอื่นๆ มันไม่มีผู้ร้าย ไม่มี Climax เหตุการณ์ก็ธรรมดาเหมือนเป็นตอนสั้นๆ จบแล้วก็จบกันไป ไม่ได้มีผลอะไรตามมาแบบชัดเจน (เด็กๆหัวเราะเยาะ Charlie แค่ฉากเดียวแล้วเลิก) แต่นี่แหละที่เป็นจุดเด่นของเรื่องนี้ คือความเรียบง่าย ไม่ต้องคิดมาก ดูสนุกๆ ขำๆ และไม่ต้องไปซีเรียสอะไรกับมัน งานภาพสวยสะอาดตาดี (คงเพราะเน้นที่ฉากฤดูหนาว) และที่ผมชอบคือการเรนเดอร์ตัวละครที่ทำให้รู้สึกเป็นตัวการ์ตูน 2D ทั้งๆที่มันเป็น 3D กันทั้งเรือง
ตัวละครในเรื่องนั้นน่ารักกันอย่างที่สุด คือเรียบง่าย ไม่ต้องวุ่นวายอะไร เด็กๆสามารถเข้าใจนิสัยตัวละครได้ในเวลาอันสั้น Charlie Brown ก็ตัวเอกขี้อายทำอะไรไม่สำเร็จ Lucy ไม่ชอบหน้า Charlie, Sally น้องสาวผู้ร่าเริง Linus เพื่อนสนิทที่ให้คำนแนะนำดีๆ ฯลฯ และแน่นอน Snoopy สุนัขแสนรู้ผู้ช่วยเหลือ Charlie ตลอดทั้งเรื่องและผจญภัยในนิยายของตัวเอง
ฉาก Snoopy ต้องบอกเลยว่าแทรกมาได้ค่อนข้างดีเลยล่ะ ทั้งในแง่การโชว์เทคนิคฉากแนวๆ chase scene ก็ส่วนหนึ่ง (เพราะในหนังหลักไม่มี) แต่ที่ทำให้มันทำออกมาดีนั้น มันเหมือนเป็นพักคั่นรายการก่อนจะกลับสู่เรื่องของ Charlie Brown ถ้าจะให้พูด มันก็เหมือนกับฉากกระรอกใน Ice Age ที่ไล่ตามลูกโอ๊คนั่นแหละ คือเป็นการคั่นเนื้อหาเหมือนกัน เพียงแต่ผมว่า Peanuts ทำออกมาได้ดีกว่า เพราะอารมณ์มันต่างกันมากๆ จนรู้สึกเหมือนเราดูการ์ตูนสองเรื่องในเรื่องเดียว
แต่ไม่ใช่ว่าฉากนิยายของ Snoopy จะสนุกเสมอไป ในบางครั้งผมรู้สึกว่าฉากพวกนี้สร้างมาเพื่อยืดเนื้อหาให้ยาวขึ้น เพราะบางจุดมันก็ยาวเกินไปจริงๆจนผมถึงกับคิดในใจว่าเมื่อไหร่จะจบแล้วไปต่อเรื่องของ Charlie ซะที
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องชมคือเรื่องเสียงพากย์ ตอนประกาศเป็นหนังใหญ่หนึ่งในเรื่องที่ผมกลัวมากๆคือจะพยายามดันดาราฮอลลีวู้ดมาพากย์ แต่ไม่เลย เรื่องนี้จริงอยู่ที่ใช้ดารา แต่เป็นดาราเด็ก ทำให้เสียงพากย์ดูเป็นเด็กจริงๆ ไม่ใช่ผู้ใหญ่ดัดเสียงเด็ก และผมชอบไอเดียหน้าตาของเด็กสาวผมแดงมากๆ คือตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นหน้าเธอไม่ชัด เพื่อเปรียบเหมือนที่ Charlie ไม่กล้า แต่ในตอนจบเมื่อ Charlie กล้าขึ้นมา เราก็ได้เห็นหน้าเธอเต็มๆ
The Peanuts Movie เป็นหนังที่ตอนแรกไม่อยากเชื่อว่าจะทำได้จริง แต่ก็ต้องเชื่อ ความสนุกสนานแบบเรียบง่าย ไม่ต้องซับซ้อน ไม่ต้องมาผูกกับความเป็นปัจจุบัน (เด็กๆไม่มีมือถือ ไม่พูดถึงรายการทีวี ไม่มีอินเทอร์เน็ต) เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี บทเรียนของเรื่องนี้นั้นแม้จะไม่ได้เลิศล้ำอะไร เพราะก็ค่อนข้างเดิมๆถึงเรื่องของความพยายามและการเป็นคนดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร เพราะถึงเราจะไม่ได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้ แต่ได้เห็นเด็กๆสนุกสนานไปกับชีวิตประจำวันของพวกเขา ผมว่าแค่นี้ก็คุ้มค่าตั๋วแล้วล่ะ
สรุป
+ ตัวละครถอดแบบจากการ์ตูนได้ดีมากๆ
+ เสียงพากย์ดี
+ งานภาพสวย
- ตอน Snoopy บางทีก็ยาวไปจนเหมือนทำมาเพื่อยืดเรื่อง
- อาจจะไม่ถูกใจคนชอบเนื้อหาซีเรียส เพราะมันไม่มีเลย
- อาจจะไม่ถูกใจคนชอบเนื้อหาซีเรียส เพราะมันไม่มีเลย
คะแนน: 9/10
No comments:
Post a Comment