ลาก่อน Gravity Falls

การเดินทางนั้นไม่ว่าจะสวยงามหรือขรุขระเพียงใด สักวันมันต้องมาถึงจุดจบ และแล้ว Gravity Falls หนึ่งในการ์ตูนที่ผมชื่นชอบและเป็นตัวจุดประกายให้ผมหันมาดูการ์ตูนของฝรั่งอย่างเป็นจริงเป็นจัง จะเข้าสู่ตอนอวสานในต้นปีหน้าซึ่งจะฉายตอนสุดท้าย

Hey guys. Gravity Falls has been an amazing journey, but the rumors are true- its reaching its finale https://t.co/y1trh76Hjw #GravityFinale

— Alex Hirsch (@_AlexHirsch) November 20, 2015

(ทวีตของผู้สร้าง ยืนยันว่าการ์ตูนจะอวสานแล้ว)

ในฐานะที่ตามการ์ตูนเรื่องนี้มาตลอดผมเสียใจกับเรื่องนี้มั้ย? ไม่เลย ตรงกันข้าม ผมกลับดีใจและอยากแสดงความยินดีให้ Alex Hirsch ผู้สร้างด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะผมดีใจที่เห็มมันไป แต่ผมดีใจที่เรื่องนี้สามารถจบลงตามความต้องการของคนสร้างได้ ไม่ได้ยืดออกจนเสียเสน่ห์ที่ตัวเองมี และไม่ได้โดนตัดจบทั้งๆที่ยังไม่ได้ดำเนินเรื่องไปถึงไหนเลย

อีกทั้งคอนเซ็ปท์ของ Gravity Falls นั้น ไม่ใช่การ์ตูนที่เหมาะสำหรับทำออกมายาวๆ เพราะการ์ตูนนี้เป็นการ์ตูนที่ขายเนื้อเรื่องและปริศนาเป็นหลัก มากกว่าเป็นแนวตลกเฮฮา ดังนั้นเมื่อถึงจุดจุดหนึ่ง ทุกอย่างมันก็ต้องคลี่คลายออกมา โดยเฉพาะปริศนาของผู้เขียนบันทึกที่วางไว้ตั้งแต่ซีซัน 1 และกระจายคำใบ้ไว้ตลอดทั้งซีซันให้ผู้ชมคิดตาม และเมื่อปริศนาทั้งหมดเฉลยแล้ว นั่นก็แปลว่าไม่มีปริศนาหลงเหลือแล้ว ก็แปลว่าเนื้อเรื่องเข้าสู่จุดจบแล้วนั่นเอง เพราะผมรู้ว่าถ้ามันยืดต่อนะ รับรองห่วยแตกแน่นอน

ด้วยฝีไม้ลายมือของ Alex และทีมงาน ทำให้ผมและแฟนๆอีกหลายคน ดำดิ่งเข้าสู่โลกของ Gravity Falls ที่เป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่กลับมีความลับมหาศาลซ่อนอยู่ ตัวละครที่มีเสน่ห์ทั้งพวกขาประจำและตัวละครตอนเดียวทำให้เราติดหนึบอยู่กับโลกที่แสนเพี้ยนแต่กลับน่าหลงใหลแห่งนี้

ขอบคุณ Alex และทีมงานที่พาพวกเรามาถึงจุดนี้ได้ และถึงแม้ว่า Disney จะชอบทำให้เรื่องนี้โดน hiatus บ่อยๆ แถมไม่ยอมผลิต DVD ออกมาขาย แต่ก็ยังดีที่ให้ทีมงานสามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ โดยเฉพาะตอน The Tales of Two Stan ที่ฉายยาว 29 นาทีโดยไม่มีคั่นโฆษณา และตอนสุดท้ายที่จะมีความยาวหนึ่งชั่วโมงเต็มในต้นปีหน้า

ใครที่อ่านบทความนี้แล้วยังไม่เคยดู Gravity Falls ก็ตามไปอ่านบทความแนะนำของผมได้ที่: ทำไมถึงควรดู Gravity Falls - เมืองพิลึก ป่าพิศวง