[Review] Friendship is Magic - Season 5 Episode 9: Slice of Life



เย้ Derpy พูด มุข Doctor Who เย้ Vinyl กับ Octavia เย้ Lyra เย้ Bon Bon

คะแนน: 100/10

ผมเชื่อว่าตอนนี้รีวิวของ Brony เจ้าไหนๆคงจะพูดแบบนี้เหมือนกันหมด นั่นคือนี่เป็นตอนที่สุดยอดที่สุดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ถ้าตัดสินกันแบบนั้นก็คงไม่ต้องรีวิวอะไรกันแล้วมั้ง

สำหรับตอนนี้เป็นเคสที่ค่อนข้างแปลกกว่าตอนอื่นๆ เนื่องจากเป็นตอนฉลองครบรอบ 100 ตอน ดังนั้นทีมงานจึงต้องการขอบคุณแฟนๆที่สนับสนุนด้วยการทำตอนพิเศษเอาใจแฟนๆเป็นหลัก ดังนั้นแล้วสำหรับ Brony คงจะกรี๊ดสลบกับตอนนี้แน่นอน เพราะทีมงาน canon ทุกอย่างที่แฟนๆสร้างและต้องการลงไปหมด ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับ Lyra/Bon Bon, Derpy/Doctor, Vinyl/Octavia ชื่อ Steven Magnet, Doctor สนใจการเดินทางข้ามเวลา, Bon Bon เป็นสายลับ และอะไรหลายๆอย่างที่ผมพูดทั้งวันก็ไม่หมด ตัวละคร Background มากมายต่างออกมาวาดลวยลายและเติมสีสันให้แฟนๆกันอย่างมากมาย


ก่อนอื่น ผมพูดตรงๆเลยว่าผมไม่ชอบแฟนเซอร์วิส (เช่น อนิเมะที่ชอบมีฉากเปิดกระโปรงจับหน้าอกผู้หญิง) เพราะผมรู้สึกว่ามันเป็นวิธีเล่นง่ายๆพื่อดึงความนิยมของผู้ชมมากกว่าจะใช้การเขียนบท และตอนนี้ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆ หลายจุดในเรื่องไม่มีเหตุผลของมันนอกจากแค่ว่าเพื่อเอาใจแฟนๆ นั่นทำให้หลายๆโมเมนท์ในเรื่องไม่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่อง ไม่มีจุดเกี่ยวโยง และไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องใดๆเลย เช่นตอน Bon Bon เผยตัวว่าเป็นสายลับ ซึ่งดูไร้สาระเพราะมันไม่มีอะไรต่อ (พูดฉากเดียวแล้วจบ) หรือว่าฉากที่ Vinyl ขี่รถดีเจออกไปชนชาวเมืองและพาทุกคนเข้ามาในงาน ซึ่งดูหลุดโลกของการ์ตูนเรื่องนี้เกินไปหน่อย หรือว่าการให้งูทะเลจากตอนที่หนึ่งเติมเนื้อเรื่องว่า Cranky กับเขาเป็นเพื่อนกัน (เพิ่งมาเป็นตอนนี้แหละ เพราะตอนนั้นไม่เห็นพูดเลย) แน่นอนว่าเหตุผลทั้งหมดก็แฟนเซอร์วิสไง


แต่โอเค ถ้าตัดแฟนเซอร์วิสออกไป ก็มีเรื่องดีๆให้ชมเยอะเหมือนกันไอเดียที่ให้ Background Pony เป็นตัวหลักดำเนินเรื่องเป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่น่าสนใจ (เหมือนในคอมมิคนั่นแหละ ที่ถ้าเล่มไหนให้ตัวรองรับบทเด่นจะดูน่าสนใจกว่า) ไอเดียการแต่งงานเพื่อใช้เป็นเหตุผลที่ต้องให้ Background pony มีบทเด่นก็นับว่าใช้ได้ และบางฉากก็ตลกจริงๆ เช่น ฉาก Gummy พูด, ฉากทะเลาะกันของ Celestia กับ Luna, ฉากป้ำๆเป๋อๆของ Derpy, ฉาก Shining Armor ร้องไห้ ฉาก Doctor เล่นโบว์ลิ่ง มุข Bugbear และอีกหลายๆฉาก ซึ่งฉากพวกนี้ตลก ฮา และสนุกได้มาตรฐานของเรื่องนี้จริง ขณะที่มุขล้อ pop culture ที่ทำเป็นประจำก็นับว่าทำได้น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นคำลงท้าย man ของม้าที่ล้อตัวละคร The Dude หรือ Doctor กับ Doctor Who นี่ก็ทำให้อมยิ้มได้เหมือนกัน


แน่นอนว่าการรีวิวนี้ค่อนข้างพูดได้ยาก เพราะว่าตอนนี้ถูกสร้างโดยมีเป้าหมายเพื่อจะแฟนเซอร์วิส ดังนั้นก็ต้องวัดกันที่แฟนเซอร์วิส ถูกมั้ย? แต่ทว่าตอนนี้มันนับเป็นตอนที่ 9 ในตอนหลัก ดังนั้นแปลว่ามันก็ต้องถูกวัดด้วยมาตรฐานเดียวกับตอนอื่นๆถูกมั้ย?

ดังนั้นเพื่อให้ยุติธรรม ก็ต้องเอาทั้งหมดมาหักล้างผลคะแนนกัน ดังนั้นผมสรุปว่าตอนที่ 9 นี้สนุก ถึงแม้แฟนเซอร์วิสจะเยอะมากและทำให้เนื้อเรื่องค่อนข้างอ่อนแถมมีบางฉากดูไร้แก่นสารและหลุดโลกไปหน่อย แต่บางส่วนก็นับว่าตลกจริงๆ ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ชอบแฟนเซอร์วิส (แบบผม) ก็นับว่าตอนนี้ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว เพียงแต่ถ้าแฟนเซอร์วิสและยังเกาะมาตรฐานของเรื่องนี้ไว้ได้ผมว่าน่าจะดีกว่านี้


สรุป

+ มุขตลกยังคงได้มาตรฐานของเรื่องนี้
+ ได้เปลี่ยนอารมณ์ไปโฟกัสที่ตัวละครอื่นๆบ้าง
+ แฟนเซอร์วิส


- ตัวละครบางตัวไม่ค่อยได้บทมากเท่าตัวอื่นๆ
- ถ้าเทียบกับตอนอื่นๆถือว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างแย่
- บางฉากไร้เหตุผลและหลุดโลกเกินไป

คะแนน: 7/10

No comments:

Post a Comment