ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพยนตร์ The Lego Movie มีจุดเด่นอยู่ที่ความน่ารักใสซื่อของ Unikitty ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะ WB เล็งเห็นว่าคาแร็คเตอร์นี้ขายได้ จึงได้ผลิตออกมาเป็นซีรี่ส์
แต่ที่น่าแปลกใจคือซีรี่ส์นั้นไม่เกี่ยวอะไรกับหนังเลยนี่สิ
ก่อนอื่นเลย ผมเข้าใจว่า ในหนัง Lego Movie เนี่ย ตัวละครจะต้องมาจากเซ็ตต่างๆ ถูกมั้ย? ดังนั้นแปลว่า Unikitty ก็ต้องมาจากเซ็ตเหมือนกัน ซึ่งแต่ละเซ็ตก็มีเนื้อเรื่องของมันเอง ซึ่งแปลว่า Unikitty ก็มาจากเนื้อเรื่องของ Unikitty ถูกมั้ย? ก็นั่นแหละปัญหากับฉบับซีรี่ส์ คือไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่ตรงกับฉบับหนังเลย
ในฉบับซีรี่ส์นั้นเป็นการผจญภัยของ Unikitty กับเพื่อนอีก 4 ตัวของเธอ Puppycorn น้องชาย Dr. Fox นักวิทยาศาสตร์ Hawktodile บอดี้การ์ด และ Richard อิฐที่มุ่งแต่ทำงาน ซึ่งต้องเจอกับเรื่องป่วนมากมาย ทั้งจากพวกตัวเอง และ Master Frown กับ Brock ลูกสมุน
จากเรื่องย่อที่ผมเขียนหลายคนคงเดากันได้ และเป็นเช่นนั้นจริงๆ Unikitty เป็นการ์ตูนตลกประเภทตลกจริงๆ คือไม่ได้มีจุดประสงค์จะยกระดับหรือเพิ่มคุณค่าอะไรให้กับวงการการ์ตูน ดังนั้นเนื้อหาก็พื้นๆ คือตัวเอกมีเรื่องวุ่นไปวันๆ ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น
จุดขายหลักของเรื่องคือความน่ารักของ Unikitty ซึ่งผมยอมรับตรงๆว่า ใช่ ในเรื่อง Unikitty น่ารักมาก และน่ารักคนละแบบกับใน Lego Movie เพราะมีการเปลี่ยนนิสัยบางส่วน การเปลี่ยน Tara Strong มาพากย์เสียงแทนนั้นเข้ากับนิสัยไฮเปอร์มากขึ้นของ Unikitty ซึ่งเป็นจุดที่ต้องยอมรับว่าพวกนี้คือจุดเด่นมากๆของเรื่องนี้เลย
ขณะเดียวงานภาพนั้นถึงแม้จะตามสมัยนิยมคือแบน แต่กระฉับกระเฉงว่องไหวเข้ากับสไตล์ของเรื่อง แต่กระนั้นก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร คือดูดี แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นต้องแจกรางวัลให้อะไรขนาดนั้น
จากเท่าที่ผมดูตอนทั้งหมด 3 ตอนก่อนฉายจริง เนื้อหาแต่ละตอนก็ไม่ได้มีอะไรมาก ตอนแรกพวกตัวเอกโดนหลอกให้เล่นเกมกระดานที่จะทำให้ถูกขังอยู่ในกระดาน ตอนที่สองเป็นตอนที่ Unikitty พยายามทำให้ Richard มีความสุข และตอนที่สามเป็นตอนฤดูหนาวที่ Master Frown ติดอยู่ในมนุษย์หิมะ พวกตัวเอกก็นึกว่ามนุษย์หิมะมีชีวิตจึงเล่นสนุกกัน
ด้านเนื้อหาตอนไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ตอนสไตล์ random มีประเด็นหลักง่ายๆแล้วก็เล่นมุขกับแก้ปัญหากันไป ในด้านของมุขตลกก็ง่ายๆ เน้นไปที่ตัวละครทำอะไรบ๊องๆเปิ่นๆ ไม่ได้มีมุขที่ล้ำลึกไปมากกว่านี้แล้ว
ขณะที่ตัวละครต่างๆนั้นก็ไม่ได้ช่วยเสริมอะไรให้กับเรื่อง ส่วนใหญ่ก็มีความต๊องและบ๊องพอๆกัน ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
สรุปแล้ว ถ้าว่ากันตามตรงคือ สำหรับการ์ตูนใหม่ในปีหน้า (นี่คือฉายพรีวิวก่อน) Unikitty ไม่ได้น่าสนใจอะไรเท่าไหร่นัก เพราะถ้าเทียบกับการ์ตูนตลก 10 นาทีอื่นๆในตลาดด้วยแล้วนั้น อย่าง We Bare Bears ที่มีเรื่องการจิกกัดสังคม The Loud House มีเรื่องพี่น้อง และ Bunnicula มีเรื่องผีสาง ซึ่งทำให้น่าสนใจกว่าและมุขตลกที่ลึกล้ำและมีความหมายมากกว่า Unikitty ไม่ต่างอะไรกับพวก Cloudy with a chance of Meatball หรือ Teen Titans Go คือไม่ได้มีอะไรมากกว่า lol random แค่นั้นแหละ แต่ถ้าถามว่าดีกว่ามั้ย? ผมให้ดีกว่าหน่อยนะเพราะ Unikitty น่ารัก และพล็อตเรื่องก็ไม่ได้แย่มากเท่า Teen Titans Go
No comments:
Post a Comment